วันนี้(2 ม.ค.62)ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลลดลงดีขึ้นทุกจุดเทียบกับเมื่อวานนี้ ขณะที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนคุมเข้มมาตรการแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ลดการปล่อยฝุ่นเล็กจากโรงงานอุตสาหกรรมและห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพชั้นใน
รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศในรอบ 24 ชั่วโมงของกรุงเทพมหานครและกรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 14.00 น. พบว่า ทุกจุดที่ติดตั้งเครื่องตรวจวัดของกทม.ค่าฝุ่นเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 33-58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยรวมค่าฝุ่นขนาดเล็กลดลงจากเมื่อวานเกือบทุกพื้นที่ และมี 2 เขตคือเขตบางเขน และบางพลัดทค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เช่นเดียวกับพื้นที่จังหวัดปริมณฑล วันนี้ก็ไม่มีพื้นที่วิกฤติสีแดง โดยค่าฝุ่นสูงสุดอยู่ที่ ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มากกว่า บริเวณถนนพระราม 2 ที่เคยมีค่าฝุ่นละอองเล็กเกินมาตรฐานต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้
จากโมเดลคาดการณ์ของกรมควบคุมมลพิษ คาดว่าวันพรุ่งนี้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศยังมีลมพัดอ่อน แต่มาตรการคุมเข้มแหล่งต้นตอเกิดฝุ่นละอองเล็กของหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน /การใช้เครื่องบินเล็กฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ และปฏิบัติการบินทำฝนหลวง รวมถึงการทำ บิ๊ก คลีนนิ่งเดย์ ล้างและทำความสะอาดหลายพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ อาจช่วยส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้
ส่วนการแข่งขันอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2019 หรือ งานวิ่งผ่าเมือง ที่จะเริ่มคืนนี้ ล่าสุดทางคณะกรรมการจัดงาน แจ้งผ่านเฟสบุ๊คว่าได้ติดตามคุณภาพอากาศช่วงที่จะมีการแข่งขันตั้งแต่เที่ยงคืน คืนนี้ ถึง 10 นาฬิกา อยู่ในเกณฑ์ที่ดี การจัดงานยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม แต่ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ทั้งการตรวจวัดค่าอากาศระหว่างการแข่งขัน หากค่าฝุ่นเกินมาตรฐานจะยุติการแข่งขันและนำผู้แข่งขันขึ้นรถ Shuttle Bus เตรียมพร้อมอุปกรณ์ที่ช่วยดูแลผู้เข้าแข่งขัน หากมีอาการแพ้หรืออาการด้านการหายใจ / เพิ่มทีมแพทย์ หน้ากากอ๊อกซิเจน เครื่อง AED โดยจะมีแพทย์ร่วมวิ่งไปกับผู้แข่งขันในแต่ละระยะทางพร้อมช่วยเหลือนักวิ่งหากมีอาการไม่ปกติเกิดขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม