พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ “อนาคตไทย อนาคตเรา : Our Country Our Future” โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ยุทธศาสตร์ชาติ คือการทำงานจากวันนี้เพื่อมีผลไปถึงอนาคต ยินดีที่ได้มาร่วมเปิดงานเพื่อสร้างความตระหนักรู้ เป็นเวทีสำคัญที่จะช่วยเผยแพร่ข้อมูล เพื่อทำให้ทราบทั่วไปทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยทุกคนต้องเข้าใจหลักการสำคัญ เพื่อช่วยชี้แจงต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาอีก และอาจจะย้อนกลับมาว่ายุทธศาสตร์ชาติไม่เกิดประโยชน์
วันนี้รัฐบาลดำเนินการมาหลายอย่าง ทั้งหมดต้องใช้เวลาและกฏหมาย ซึ่งไม่ง่ายอย่างที่พูด พร้อมเตือนด้วยว่า หากใครมุ่งหวังทำงานใหญ่อย่าคิดแค่เป้าหมายว่าต้องการอะไร แต่ต้องรู้วิธีการทำด้วย ดังนั้นต้องรู้งานในทุกกระทรวงว่าทำอย่างไร ไม่ใช่สั่งการเพียงอย่างเดียว และอย่าชี้นำให้ทำประโยชน์เพื่อตนเอง รัฐบาลหรือใครก็แล้วแต่ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาล ที่มีผลต่อการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ต้องทำให้คนเคารพและเรียนรู้กฏหมาย หากไม่สอนตรงนี้ไม่มีทางแก้อะไรได้ทั้งสิ้น เพราะทุกคนจะมีความคิดเป็นอิสระทั้งหมด ส่วนเรื่องของสิ่งแวดล้อมประเทศไทยมีข้อได้เปรียบมากมาย ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาหาร มารยาท การให้บริการ การเป็นเจ้าบ้านที่ดีและรอยยิ้มที่เป็นเสน่ห์ของประเทศไทย ที่หลายคนพยายามทิ้งไป หลายอย่างดีก็ควรรักษาไว้ เพราะเป็นรากเหง้าของประเทศไทย ไม่เช่นนั้นทุกคนก็จะลืมกันหมดแล้วจะอยู่กันได้อย่างไร หากไม่รู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ไม่รู้ว่าจะรักประเทศไทยได้อย่างไร เพราะไม่รู้ว่าตนเองมาจากไหน ซึ่งหลายคนลืมไปหมดแล้ว ยกตัวอย่างเรื่องราวในต่างประเทศ แล้วก็ด่าประเทศตนเอง แบบนี้ใช้ไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุใดในประเทศไทยถึงมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานจำนวนมากเนื่องจากคนไทยไม่ชอบทำงาน แต่ไปทำงานในต่างประเทศเพระมีรายได้ที่ดีกว่า เพราะมีรายได้ของประเทศ ดังนั้น สั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดให้แรงงานพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น แรงานต่างด้าวเข้ามามาก ก็มีปัญหา แต่หากไม่เข้ามาก็ไม่มีคนทำงาน ดังนั้นต้องดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานเหล่านั้นด้วย
เมื่อวานตนเองขึ้นเครื่องบินไปงานหลวงพ่อคูณ ตนจะดูความแตกต่างทุกครั้ง บ้านเมืองของเราหากมองมาข้างล่างจะเป็นพื้นที่พืชสวนไร่นาทั้งสิ้น ต้นไม้น้อยมาก ยกเลิกพื้นที่ที่เป็นอุทยานป่าเขาที่สงวนไว้ได้ ดังนั้นจะต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้น และเป็นที่มาของโครงการปลูกป่า วันนี้มีปัญหาเรื่องค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานเข้ามา และยังมีการเผาวัชพืชอยู่ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้อยากรังแกใคร หลายคนบอกว่าตนเองจะไปริดรอนหรือโจมตีเกษตรกร ยืนยันว่าตนเองไม่เคยพูดแบบนั้น แต่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมช่วยกัน ใครทำอะไรที่ไม่เกิดการเผาทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 หรือ PM 10 ก็มีผลต่อสุขภาพทั้งสิ้น จึงต้องไปดูที่มาจากหลายพื้นที่ สิ่งสำคัญ คือ ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องสำรวจทั้งหมด
ปัญหาความมั่นคง การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ สงครามไซเบอร์ การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาทำผิดกฏหมาย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันมาก เพราะการสัญจรใหม่ๆ มากขึ้น หากไทยไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะจะไปไม่ได้เพราะโลกเป็นแบบนั้น แต่คนของเราต้องเข้มแข็ง เฝ้าระวัง ช่วยกันดูแลและเคารพกฏหมาย แต่มีบางคนที่ไปร่วมกับการกระทำผิดเหล่านี้ เจ้าหน้าที่บางคนก็ไม่ดีก็ต้องยอมรับกับตนเอง ตนปฏิเสธแทนไม่ได้ ดังนั้นต้องทำให้ทุกอย่างโปร่งใส
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายคนรังเกียจทหาร ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าวันนี้อยู่มาอย่างไร คนที่ไม่ชอบทหารไปนั่งอยู่ชายแดนกับตนเองหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสบายนัก หากไม่มีทหารชายแดนหรือในภาคใต้จะเกิดอะไรขึ้น ที่พูดกันรู้จริงหรือไม่ คนดีก็มีเยอะ คนไม่ดีก็มีอยู่ ก็ต้องนำคนไม่ดีออกไป ไม่ว่าใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ หากไม่มีทหารลองคิดดูว่าหากเกิดภัยพิบัติจะเอาใครไปช่วยเหลือ จึงขอให้ช่วยกันพูด หากไม่ช่วยกันพูดก็จะไม่เข้าใจกันทั้งสิ้น หากใครเข้าใจก็ช่วยกันพูดและไม่ต้องพูดเอาใจ แต่ขอให้พูดความจริงจะได้ช่วยลดปัญหาและความขัดแย้งได้บ้าง
ความร่วมมือในลักษณะที่เราต้องมองอนาคตของประเทศ คือต้องร่วมมือได้อย่างเดียวคือลักษณะประชารัฐ ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคใครทั้งสิ้น และเรื่องนี้พูดมา 3 ปีแล้ว เอามาโยงกันตลอด จึงอยากให้เข้าใจคำว่าประชารัฐคือทุกคนร่วมกัน ได้แก่ รัฐ เอกชน และประชาชน แต่เหลือเพียง เอ็นจีโอ ซึ่งตนเองว่าไม่ทราบว่าจะเชิญอย่างไร ซึ่งเมื่อวันก่อนมีการคัดค้านพื้นที่การสร้างเขื่อน ที่ทุกคนต้องการน้ำ และต้องการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยนำโครงการลงไป แต่มีการค้านจากคนนอกพื้นที่ มาเดินขบวนหน้าทำเนียบรัฐบาล ทั้งหมดเป็นความยากง่ายในการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะเดียวกัน 4-5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลลดการเยียวยาเหลือแค่จำนวนพันล้านบาท ซึ่งเมื่อก่อนหลายหมื่นล้านบาททุกปี การพัฒนาแหล่งน้ำ ทำมากกว่า 4 รัฐบาลที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า การเมืองเข้ามาโจมตีเรื่องทุจริตตกต่ำ จึงต้องดูว่าองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) มีเกณฑ์การวัดคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) อย่างไร อะไรที่ดีหรือแย่ ก็ต้องไปแก้ในสิ่งที่แย่ หากพูดไปก็กล่าวหาว่ารัฐบาลนี้ก็เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมามีการติดคุกไปเท่าใดในรัฐบาลนี้ ก่อนหน้านี้มีการติดคุกแบบนี้หรือไม่ ซึ่งเรื่องการทุจริตต้องดำเนินการต่อไปตามกฎหมายใครผิดว่าไปตามผิด ส่วนตัวไม่เคยก้าวล่วง ดังนั้นต้องรับผิดชอบกันเอง เรื่องใดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้อยู่แล้ว แม้กระทั่งบุคคลใดที่ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะส่วนตัวมีหน้าที่ให้โอกาสทุกคนในการทำหน้าที่ของตนเอง ใครจะฟ้องใคร ก็ฟ้องไป ส่วนตัวไม่เกี่ยว เดี๋ยวกล่าวหาว่าลงโทษคนนี้ไม่ลงโทษคนนั้น ไม่เช่นนั้นจะเสียหายทั้งประเทศ เพราะศาลและกระบวนการยุติธรรมตัดสินคนทั้งประเทศ มิเช่นนั้นก็มองว่าไม่เป็นธรรมหมด คนที่ติดคุกไปแล้วก็ไม่เป็นธรรมใช่หรือไม่
ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในยุทธศาสตร์ที่ดีเมื่อประเทศมีความสงบเรียบร้อยต่างประเทศก็สนใจที่จะมาลงทุน แต่หากคนไทยยังสร้างความขัดแย้งก็จะเป็นการทำลายโอกาสของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ และขณะนี้ประเทศก็สงบสุขดี
+ อ่านเพิ่มเติม