คุมตัวผู้ต้องหาชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทยทำแผนประกอบคำรับสารภาพอ้างหาเงินใช้หนี้และเล่นการพนัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม มีคนร้ายชาย 1 คน อายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างสูงประมาณ 170-180 ซม. สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีขาว เสื้อผ้าร่มสีกรมท่าแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว บุกเดี่ยวเข้าชิงทรัพย์ภายในธนาคารทหารไทย สาขาถนนพัฒนาการ ปากซอยพัฒนาการ 48 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ได้เงินสด 105,320 บาทหลบหนีไป ก่อนใช้รถจักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียนเป็นพาหนะในการหลบหนี
(3ม.ค.62) โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 ได้ติดตามสืบสวนภาพ จากกล้องวงจรปิด จนรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ก่อนร่วมกันเข้าจับกุมตัวนายศราวุฒิ สะทิ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ที่บ้านพัก ใน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
จากการสอบปากคำนายศราวุธ ผู้ต้องหา เปิดปากให้การรับสารภาพ เป็นผู้ก่อเหตุเข้าชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทยจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้วางแผนตระเวนดูธนาคารต่างๆ โดยจะเลือกธนาคารที่มีพนักงานเป็นผู้หญิง และไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยขับรถจักรยานยนต์เริ่มจากธนาคารย่านสมุทรปราการ ก่อนจะมาถึงธนาคารกรุงไทย สาขา พาทิโอ รามคำแหง แต่เมื่อเข้าไปดูพบว่ามีพนักงานเป็นผู้ชาย เสียส่วนใหญ่ประกอบกับมีลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมากจึงเปลี่ยนใจ ก่อนที่จะมาถึงธนาคารทหารไทย ปากซอยพัฒนาการ 48 จึงเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ 1 ของธนาคาร พูดข่มขู่ให้ส่งเงินมาพร้อมยื่นถุงพลาสติกให้ใส่เงิน แล้วทำท่าว่ามีระเบิดกับปืนอยู่ในตัว แต่พนักงานไม่ให้ จึงหันไปหาเคาน์เตอร์ที่2 พนักงานก็ตกใจเดินหนี จึงเดินไปที่พนักงานเคาน์เตอร์3 ซึ่งพึ่งมาทำงานใหม่ ก่อนข่มขู่ให้ส่งเงินมาเพราะมีระเบิดและปืน ทางพนักงานจึงหันไปมองทางผู้จัดการที่ตัดสินใจยอมให้เงินไป เพราะกลัวว่าคนร้ายจะมีระเบิดจริง อีกทั้งคนร้ายยังพยายามปีนข้ามเคาน์เตอร์มา จึงยอมเอาเงินใส่ถุงพลาสติก จากนั้นจึงออกจากธนาคารไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วกลับรถทันทีมุ่งหน้าไปทางแยกพัฒนาการหลบหนีไป โดยเงินที่ได้นำไปเล่นการพนันจนหมดสิ้น เนื่องจากติดการพนันอย่างหนัก
โดยในเวลา 12.00 น.พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเดินทางมาทำการสอบปากคำพร้อมจะควบคุมตัวผู้ต้องหานำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม