คสช. จับยึดรถเมาแล้วขับปีใหม่รวม 2 วัน ทะลุ 752 คัน
logo ข่าวอัพเดท

คสช. จับยึดรถเมาแล้วขับปีใหม่รวม 2 วัน ทะลุ 752 คัน

ข่าวอัพเดท : คสช.เดินหน้ามาตรการ เมาแล้วขับช่วงปีใหม่ 2 วันจับยึดรถไปแล้ว 752 คัน ดำเนินคดีผู้กระทำผิดกว่า 2 หมื่น 5 พันคน พร้อมขอผู้ใช้เส้นทางมี คสช.,เมาแล้วขับ,เมาแล้วขับจับยึดรถ,ช่วงเทศกาลปีใหม่,7วันอันตราย

3,252 ครั้ง
|
29 ธ.ค. 2561
คสช.เดินหน้ามาตรการ เมาแล้วขับช่วงปีใหม่ 2 วันจับยึดรถไปแล้ว 752 คัน ดำเนินคดีผู้กระทำผิดกว่า 2 หมื่น 5 พันคน พร้อมขอผู้ใช้เส้นทางมีวินัย มีน้ำใจ เพื่อสวัสดิภาพในการเดินทาง
 
(29 ธ.ค.61) พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนจำนวนมากใช้เส้นทางอย่างหนาแน่นทั้งถนนสายหลักและสายรอง ขณะเดียวกันคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจและฝ่ายปกครอง ยังคงร่วมกันตั้งจุดตรวจและจุดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในทุกพื้นที่ พร้อมเข้มงวดในมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เพื่อความปลอดภัยในการสัญจรอย่างเต็มที่ ซึ่ง พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกส่วนให้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง ดูแลให้ประชาชนปลอดภัย ภายใต้บรรยากาศของความเป็นห่วงเป็นใย มีไมตรีต่อกัน โดยเจ้าหน้าที่จะใช้การชี้แจง และ ขอความร่วมมือเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในการสัญจร ขอความร่วมมือผู้ใช้เส้นทางปฏิบัติตามกฎจราจร มีวินัย มีน้ำใจต่อเพื่อร่วมทาง ทั้งนี้ หากมีปัญหาในระหว่างการเดินทาง สามารถขอรับการช่วยเหลือได้จากเจ้าหน้าที่ที่จุดบริการประชาชนตามเส้นทางต่างๆ ได้ตลอดเวลา
 
สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ในส่วนรถจักรยานยนต์, รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิดรวม 27,019 ครั้ง ดำเนินคดี 21,383 ราย เจ้าหน้าที่ยึดรถจักรยานยนต์ 451คัน รถยนต์ 213 คัน ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 942 คน และ ยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 732 คน
 
โดยตลอด 2 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 27 – 28 ธ.ค.61 เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 752 คัน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 514 คัน และรถยนต์ 238 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 25,826 คน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 14,446 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 11,380 คน