วันที่ 23 ธ.ค.61 นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนจากสื่อต่างๆ เผยฉายาตำรวจประจำปี 2561 จำนวน 11 นาย ประกอบด้วย
1. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา ‘ซานต้า อวบ’ เนื่องมาจากการลงพื้นที่แถลงข่าวและดูการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกพื้นที่ไม่ว่าคดีเล็กหรือคดีใหญ่ สร้างความประทับใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอดทั้งปี พร้อมมอบรางวัลให้ชุดทำงานทุกครั้งไป
2. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา ‘นายพล License’ จากกรณีที่ได้ลงพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เพื่อตรวจดูการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าภายในถ้ำ ซึ่งขณะเดินตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ๆ กำลังทดสอบบินโดรน โดยมีการตั้งคำถามว่ามีใบอนุญาตหรือเปล่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ซึ่งต่อมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ได้มีการชี้แจงว่าการบินโดรนต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐต้องทำให้ถูกต้องเพื่อเป็นตัวอย่าง และหากนำโดรนหลาย ตัวไปบินโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการควบคุม อาจทำให้ขัดขวางการปฎิบัติงานส่วนอื่น
3. พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา ‘นายพล ล้านวิว’ เพราะมีประชาชนติดตามการทำงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการลงพื้นที่ออกค้นหา 13 หมูป่า ซึ่งเป็นนายตำรวจคนแรกที่ลงพื้นที่ อยู่กินในป่า พร้อมบวชอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าแม่ดอยนางนอน มีผู้ติดตามผ่านโซเชียลฯ ถึง 4 ล้าน 7 แสน
4. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา ‘เด่น ปักกลด’ เนื่องจากตอนที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด (ปักกลด) โดยให้ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้าน ชุมชนที่มียาเสพติดแพร่ระบาด แบบไปกินนอนในหมู่บ้าน ชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนในเรื่องต่างๆ โดยโครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีการนำเอาไปใช้ในหลายจังหวัด
5. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฉายา ‘สวาทแคท’ (S.W.A.T CAT) ครั้งดำรงตำแหน่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ให้ความสนใจคดีคดีโจรผัวเมียอุ้มหมา อุ้มแมว ตระเวนลักทรัพย์ ไปหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องนานกว่า 15 ปี ได้ทรัพย์สินไปกว่า 20 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอดมือหน่วย S.W.A.T ในสังกัด ภูธรภาค 1
6. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับฉายา ‘นายพล ตีนตุ๊กแก’ เรียกได้ว่ายึดตำแหน่งเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งๆ ที่ปีที่ผ่านมาในพื้นที่มีคดีอาชญากรรมใหญ่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิงทรัพย์ร้านทอง ปล้นรถขนเงิน ตัดตู้เอทีเอ็ม ที่ยังจับไม่ได้ แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ภาค 2 ต่อไป
7. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับฉายา ‘มือปราบดอกเบี้ยโหด’ จากกรณีที่ลงพื้นที่ปราบปรามแกงค์เงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด พร้อมยึดโฉนดที่ดินคืนประชาชนได้มากกว่า 10,000 ฉบับ เนื้อที่รวม กว่า 3 หมื่นไร่
8. พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับฉายา ‘ผู้การหวยเด้ง’ จากคดีแย่งสิทธิ์หวย 30 ล้านบาท ถึงแม้จะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี แต่คดีนี้ก็ทำให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการภูธรตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จนถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง
9. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับฉายา ‘บิ๊กป๋อ สายโหด’ เห็นบุคลิกเป็น8oเรียบร้อย แต่หลังเข้ารับตำแหน่งเพียง 3 เดือน ก็มีการวิสามัญแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ไปแล้ว 2 ราย จึงได้ฉายาดังกล่าว
10. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.เจ้าของฉายา หลวงตามสั่ง ในปีนี้กลับได้ ‘หลวงที่ถูกลืม’ เพราะแม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะมีผลงานการปราบปรามพนันบอลโลก จนสามารถยึดทรัพย์ได้มากกว่า 100 ล้าน แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณาตำแหน่งในปีนี้
11. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในปีนี้ไม่มีการตั้งฉายาให้แต่อย่างใด แต่คณะกรรมพิจารณาฉายาได้ลงความเห็นว่าสำหรับผู้นำนายนี้ ไม่มีคำบรรยายใดๆ จะเหมาะสม เพราะตลอดปีที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ดูแลคดีใหญ่ๆ ด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น
อีกทั้งยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง ไม่ถือตัวถือยศถือตำแหน่งจนได้ใจลูกน้องไปเต็มๆ จึงให้คำนิยามแทนตัว ผบ.ตร.นายนี้ว่า ‘ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ’