'เมจิ อโณมา' ร้องดีเอสไอ ถูกแฮกเฟชบุ๊กล้วงข้อมูลบัตรเครดิต สูญเงินนับ 1.4 ล.
logo ข่าวอัพเดท

'เมจิ อโณมา' ร้องดีเอสไอ ถูกแฮกเฟชบุ๊กล้วงข้อมูลบัตรเครดิต สูญเงินนับ 1.4 ล.

ข่าวอัพเดท : นางสาวอโณมา ศรัญย์ศิขริน หรือ เมจิ อโณมา คุ๊ก ดารานางแบบ และไอดอลด้านสุขภาพ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดี ร้องดีเอสไอ,เมจิอโณมา,ถูกแฮกเฟชบุ๊ก,ข้อมูลบัตรเครดิต,ไอดอล,บัตรเครดิต,ดีเอสไอ

7,220 ครั้ง
|
21 ธ.ค. 2561
นางสาวอโณมา ศรัญย์ศิขริน หรือ เมจิ อโณมา คุ๊ก ดารานางแบบ และไอดอลด้านสุขภาพ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังถูกคนร้ายเจาะระบบเฟซบุ๊ก เข้ามาลักลอบสั่งซื้อโฆษณาจนทำให้เสียเงินกว่า 1.4 ล้านบาทนั้น
 
นางสาวเมจิ ระบุว่า ตนเองได้มีการเปิดเพจ Healthymeijianorma ไว้เพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพ และการออกกำลังกาย ซึ่งมีการผูกบัตรเครดิตไว้กับเพจดังกล่าว จำนวนกว่า 4 สถาบันการเงิน เพื่อใช้ในการซื้อโฆษณาของเพจ ต่อมาพบว่ามีการสั่งซื้อโฆษณาครั้งละกว่า 3 หมื่นบาท รวมกว่า 10 ครั้ง ต่อวัน หรือรวมประมาณ 4 แสนบาท ต่อวันซึ่งตนเองไม่ได้เป็นการสั่งซื้อโฆษณาดังกล่าว รวมถึงยังมีการตั้งวงเงินการซื้อโฆษณาสูงถึงวันละ 1 แสนบาท และจากการตรวจสอบพบว่าการซื้อโฆษณาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการซื้อโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดไลค์ของตนเอง แต่กลับพบว่าเป็นการซื้อโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดไลค์ให้กับเพจขายของประมาณ 4-5 เพจ ที่ยังไม่ขอระบุในขณะนี้ 
 
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติการล็อคอินยังพบว่า มีการล็อคอินเข้ามาในเพจจากในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในพื้นที่อื่นๆในประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการล็อคอินจากในต่างประเทศร่วมอยู่ด้วยในจำนวนหลายครั้ง ในวันนี้จึงเข้ามาร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบและอยากออกมาแจ้งเตือนประชาชนใช้ความระมัดระวัง และให้เปลี่ยนพาสเวิร์ดหรือใช้ขั้นตอนการแจ้งเตือนเพื่อให้ทราบหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งส่วนตัวได้ทำการอายัดและประสานสถาบันการเงินให้รอการตรวจสอบในวงเงิน1.4 ล้านบาท เพื่อชลอการเรียกเก็บในวงเงินนี้ 
 
ด้านร้อยตำรวจเอกเขมชาติ ประกายหงษ์มณี รอง ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ระบุว่า ต่อจากนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเรื่องและตรวจสอบจากหลักฐานที่ผู้เสียหายมี เพื่อตรวจสอบว่ามีการก่อเหตุจากในประเทศในพื้นที่ใด หรือในต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2557 มีการก่อเหตุคล้ายลักษณะนี้แต่ผู้เสียหายได้เงียบหายไป จนกลับมาพบว่ามีการกลับมาก่อเหตุขึ้นอีก ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อขยายผลอีกครั้ง พันตำรวจโทปกรณ์ ยังฝากถึงประชาชนให้ค่อยตรวจเช็คการผูกบัตรเครดิตในสื่อออนไลน์ และตั้งรหัวผ่านให้มีความรัดกุม หรือตั้งระบบการแจ้งเตือนไว้เพื่อป้องกัน นอกจากนี้ยังมี นายศุภากร พงศ์ธนาพร ผุ้อำนวยการสื่อดิจิตอล สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ก็ถูก ก่อเหตุในลักษณะนี้สูญเงินกว่า ล้านบาท เช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง