สคบ. นำเครื่องเอกซเรย์ทองสุ่มตรวจร้านทองใน จ.นครพนม สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
logo ข่าวอัพเดท

สคบ. นำเครื่องเอกซเรย์ทองสุ่มตรวจร้านทองใน จ.นครพนม สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค

ข่าวอัพเดท : (29 พ.ย.61) ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม หลังใหม่ พล.ต.ต. ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนต เครื่องเอกซเรย์,เครื่องเอกซเรย์ทอง,ทอง,ศาลากลางจังหวัดนครพนม,ความมั่นใจ

1,074 ครั้ง
|
29 พ.ย. 2561
(29 พ.ย.61) ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม หลังใหม่ พล.ต.ต. ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายฐิตินันท์ สิงหา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ร่วมแถลงข่าวการลงพื้นที่ตรวจติดตามการเฝ้าระวังสินค้าอันตรายและตรวจสอบฉลากสินค้าทองรูปพรรณจังหวัดนครพนม พร้อมกับนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
 
นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีการค้าระหว่างชายแดน มีการจำหน่ายทองรูปพรรณข้ามฝั่งระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีความเป็นห่วงผู้บริโภคว่าอาจจะมีการนำเอาเปอร์เซ็นต์ทองที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในฐานะผู้บริโภคที่ไปซื้อหาทองรูปพรรณมาใช้และเก็บไว้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบและสุ่มตัวอย่างจากร้านค้าผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม 
 
ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา โดยมีการสุ่มตัวอย่างจากร้านค้าทองต่างๆ มาใช้เครื่องเอกซเรย์ ที่ทางสมาคมค้าทองให้การสนับสนุน มาแสกนตรวจสอบปริมาตรและส่วนผสมต่างๆในวันนี้ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานและความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดนครพนม ว่าสินค้าที่มีการวางจำหน่ายในท้องตลาด โดยเฉพาะทองรูปพรรณในจังหวัดนครพนม เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามที่หน่วยงานของรัฐได้มีการกำหนดไว้ รวมถึงมีการลงพื้นที่ตรวจสินค้าอันตรายที่ห้ามจำหน่ายเด็ดขาดในพื้นที่ตลาดอินโดจีนของจังหวัดนครพนมด้วย
 
ด้านนายฐิตินันท์ สิงหา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก เปิดเผยว่า จากการสุ่มตรวจตัวอย่างทองรูปพรรณ จำนวน 970 ชิ้นของผู้ประกอบการ 14 แห่งที่เปิดจำหน่ายในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดนครพนมปรากฏว่าทุกร้านมีการจัดทำฉลากถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก และจากการสุ่มตัวอย่างทองรูปพรรณ จำนวน 28 ชิ้น มาตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ ก็พบว่าทุกชิ้นเป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตได้ทำการตกลงความร่วมมือกับทาง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลางไว้ทั้งหมด คือมีเปอร์เซ็นต์ทองรูปพรรณไม่น้อยกว่า 96.5 เปอร์เซ็นต์ จึงขอยืนยันกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะซื้อหาทองรูปพรรณในพื้นที่จังหวัดนครพนม ให้มั่นใจได้ว่าร้านทองทั้ง 14 แห่ง มีมาตรฐาน คุณภาพอย่างแน่นอน ส่วนการตรวจสอบสินค้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคห้ามขาย ซึ่งเป็นสินค้าอันตรายห้ามจำหน่ายเด็ดขาด ก็ไม่ปรากฏว่ามีสินค้าต้องห้ามดังกล่าวในพื้นที่เช่นเดียวกัน
 
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง