ปฏิบัติการกู้เรือฟีนิกซ์ เร่งสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว คาดภายใน 5 วัน สามารถนำเรือขึ้นมาได้
logo ข่าวอัพเดท

ปฏิบัติการกู้เรือฟีนิกซ์ เร่งสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว คาดภายใน 5 วัน สามารถนำเรือขึ้นมาได้

ข่าวอัพเดท : (14 พ.ย.61) พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรว เรือฟีนิกซ์,กู้ซากเรือ,กู้ซากเรือฟีนิกซ์,กู้สร้างเรือภูเก็ต,กู้เรือฟีนิกซ์ภูเก็ต

1,174 ครั้ง
|
14 พ.ย. 2561
(14 พ.ย.61) พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวรักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำสื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศ กว่า 60 คน ลงพื้นที่ ภูเก็ต ปฏิบัติภารกิจกู้เรือฟีนิกซ์โดยมีทั้งสื่อไทยและต่างประเทศกว่า 60 คนร่วมทำข่าวการปฎิบัติงานครั้งนี้ 
 
 
สำหรับการกู้เรือฟีนิกซ์ ดำเนินการโดยบริษัทซีเควส มารีนจำกัดซึ่งเป็นบริษัท ผู้รับจ้างรายใหม่ จากสิงคโปร์เข้าปฏิบัติภารกิจ ต่อจากบริษัทเดิม ที่ ยกเลิกสัญญา ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 เดินทางมาถึง จ.ภูเก็ต เข้าปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 61 โดยมีทีมงานกว่า 100 ชีวิตติดตั้งอุปกรณ์ใต้น้ำ พร้อมที่จะปฏิบัติการกู้เรือ โดยนำเรือเครนขนาด 1, 200 ตันความยาว 100 เมตรพร้อมเรือลากจูงความยาว 34 เมตร มาร่วมปฏิบัติการ
 
ข่าวอัพเดท : ปฏิบัติการกู้เรือฟีนิกซ์ เร่งสร้างค
 
พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจ กล่าวว่า ในส่วนของราชการพยายามผลักดันให้มีการกู้เรือให้ได้เพราะซากเรือถือเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่จะใช้ในการประกอบการดำเนินคดี สำหรับการดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดในคดีเรือล่ม พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งอัยการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งฟ้องต่อศาลแล้ว 
 
ในส่วนของปฏิบัติการกู้เรือฟีนิกซ์ในครั้งนี้คาดว่า จะสามารถ กู้เรือขึ้นมาได้ภายในระยะเวลา 5 วันจากนั้นจะมีการตรวจสอบ ทางวิศวกรรม ของเรือว่ามีการก่อสร้างถูกต้องตามแบบแปลนที่กำหนดหรือไม่ และหาข้อมูลว่าเรือดังกล่าวมีการดำเนินการก่อสร้างผิดไปจากแบบแปลนหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลไปประกอบทางคดี เพิ่มเติมทั้งนี้ผลการดำเนินคดีจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสอบเรือด้วย หากพบการกระทำผิดก็จะต้องมีผู้รับผิดชอบ
 
ด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวรักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า การพยายามกู้เรือทุกภาคส่วนได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในส่วนของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตโดยกรมเจ้าท่าได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะกู้เรือให้สำเร็จแม้ว่าในครั้งที่ผ่านมาจะดำเนินการไม่สำเร็จก็ตาม 
 
สำหรับภารกิจการกู้เรือนั้น เรือเครนเดินทางมาถึงเมื่อวาน( 13 พ.ย.61 ) ส่วนของการติดตั้งอุปกรณ์การวางสลิงค์ นักประดาน้ำและผู้เชี่ยวชาญได้ดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 โดยในวันนี้ได้นำสื่อมวลชนต่างๆไปดูที่เกิดเหตุเพื่อให้เห็นภาพของการปฏิบัติการแต่หลังจากวันนี้ก็จะไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่การกู้เรือเพราะขณะที่ดำเนินการจะไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาด เพราะ เกรงว่า อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยได้โดยเมื่อนำเรือไปขึ้นคานรัตนะชัยก็จะเป็นกระบวนการพิสูจน์หลักฐานซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญด้านเรือจากต่างประเทศ ร่วมกันตรวจสอบว่า เรือมีการต่อที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ ใครเป็นผู้อนุมัติ พิมพ์เขียว และพิมพ์เขียวมีความสมบูรณ์หรือไม่ มีซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบทุกข้อมูลในทุกด้านให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์อย่างที่สุด.