จนท.ฝ่ากระแสน้ำ เร่งช่วย 21 ชีวิตติดกลางป่า ขาดอาหาร-น้ำนาน 3 วันเต็ม
logo ข่าวอัพเดท

จนท.ฝ่ากระแสน้ำ เร่งช่วย 21 ชีวิตติดกลางป่า ขาดอาหาร-น้ำนาน 3 วันเต็ม

1,755 ครั้ง
|
12 พ.ย. 2561
ประจวบคีรีขันธ์ ช่วย 21 ชีวิตติดน้ำป่ากลางหุบเขาที่บางสะพานน้อย อดข้าวและน้ำดื่ม 3 วันเต็ม เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าช่วยใช้เรือเจ๊ตสกีผูกเชือกฝ่ากระแสน้ำลำเลียงออกมาได้สำเร็จ
 
 
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มคลี่คลายระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คงเหลือน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มบางจุด ส่วนถนนเพชรเกษม กม.386 สะพานวังยาว ต้องใช้ทางเบี่ยงเพราะคอสะพานร้าว แต่การจราจรขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ สามารถผ่านได้ตามปกติ โดยขณะนี้นายพัลลภ สิงหาเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหาย และตรวจสอบความเดือนร้อนว่ามีประชาชนตกค้างอยู่ในพื้นที่ใดหรือไม่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
 
 
ทั้งนี้ พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้ ส.อ.ธนากรณ์ สุขศิริ เจ้าหน้าที่ส่วนประสานงาน กกล.รส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ อ.บางสะพานน้อย ลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยร่วมกับ มว.รส.ที่ 1 (อ.บางสะพานน้อย) , ร้อย รส.จว.ป.ข.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตชด.1474 กำลังฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพานน้อย ,เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ที่ 13 แก่งกระจาน ,เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยไชยราช และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกลางหุบเขาเทือกเขาตะนาวศรี ห่างไปประมาณ 10 กม. ซึ้งเป็นต้นน้ำท่าแซะ บ้านท่าใหญ่ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย
 
 
หลังได้รับแจ้งว่า มีประชาชนตกค้างอยู่กลางหุบเขามา 3 วันแล้ว ไม่สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ได้เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันส่งผลให้มีกระแสน้ำตัดผ่านเส้นทาง ทั้งนี้ตรวจสอบพบว่า มีประชาชนติดอยู่ในบริเวณดังกล่าวมีจำนวน 21 คน เป็นชาย 8 คนหญิง 12คน และเด็ก 1 คน เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้ใช้เรือเจ๊ตสกีผูกเชือกยาว แล่นเรือตัดผ่านกระแสน้ำไหลเชียวเพื่อไปทะยอยลำเลียงประชาชนที่ประสบภัยออกมาทีละคน จนครบทุกคนโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้พบว่าทุกคนอยู่ในสภาพอ่อนเพลียเพราะตากฝนและอดข้าวมา 3 วันแล้ว 
 
 
สอบถามทราบว่า สาเหตุที่ติดค้างอยู่กลางหุบเขาดังกล่าว กลุ่มดังกล่าวเพราะได้เข้าไปทำไร่ แต่เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย.61 ที่ผ่านมามีฝนตกหนักส่งผลให้น้ำป่าไหลทะลักตัดขาดเส้นทางที่ใช้เดินทางกลับทำให้ติดอยู่อีกฝั่งนานเป็นระยะเวลาถึง 3 วัน โดยไม่มีอาหารและน้ำประทังชีวิตเพราะชาวบ้านเตรียมเสบียงอาหารมาทำไร่แค่เล็กน้อยเพียง1วัน และกินหมดไปก่อนหน้านี้แล้ว จนกระทั่งมีคนยอมเสี่ยงชีวิตว่ายน้ำข้ามมาขึ้นอีกฝั่ง เพื่อออกมาขอความช่วยเหลือจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องและได้ประสานงานกับหลายหน่วยงานเดินทางเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยดังกล่าว