วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีเหตุเด็กหญิงวัยขวบเศษ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสุนัขจรจัดรุมกัด นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อไปถึงพบว่าเด็กหญิงรักษาตัว โดยมีนางนาสีคำ อายุ 19 ปี ชาวเขาเผามูเซอ มารดาดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ อายุ 1 ปี 2 เดือน หรือ น้องหญิง สภาพตามร่างกายมีรอยถูกสนุนัขกัดและข่วน รวมทั้งบนศรีษะและแขนของน้อง ก็ถูกกัด มีบาดแผลรวมหลายแห่ง โดยทางแพทย์ได้ทำการฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ารวมถึงฉีดยาป้องกันการติดเชื้อต่างๆ และให้นอนดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน
นางนาสีดา เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (3 พย.) ตนเองพร้อมกับสามีและลูกน้อยพักอาศัยอยู่ที่บ้านป่าตึง ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยอยู่ใกล้กับฟาร์มหมู ซึ่งบริเวณดังกล่าวก็มีฝูงสุนัขจรจัดอาศัยอยู่หลายร้อยตัว โดยในช่วงเช้าสามีออกไปทำงาน ตนอยู่บ้านกับลูก ขณะเกิดเหตุตนเข้าไปทำอาหารในครัว ส่วนน้องหญิงเล่นอยู่หน้าบ้าน สักพักได้ยินเสียงลูกร้อง เมื่อออกไปดูพบว่าลูกกำลังถูกสุนัขจรจัดหลายสิบตัวรุมกัด ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์ต่างช่วยกันเข้าไปไล่ฝูงสุนัข ก่อนจะนำตวัน้องหญิงส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้นได้ร้องเรียนไปยังอำเภอดอยสะเก็ดให้เข้าช่วยเหลือในด้านค่ารักษาพยาบาล และทำการตรวจสอบสุนัขจนจัดดังกล่าว เนื่องจากตนเองกับสามีมีรายได้น้อย
ด้านพ่อของน้องหญิง เผยว่า ตนเคยพยายามร้องเรียนไปยังเอำเภอดอยสะเก็ดหลาดครั้งแล้ว ให้เข้ามาตรวจสอบสุนัขจรจัดในบริเวณดังกล่าวที่มีกว่า 100 ตัว ซึ่งแบ่งกลุ่มออกไปเป็นฝูงๆ หลายฝูง เกรงว่าจะมากัดชาวบ้าน สุดท้ายลูกสาวตนก็มาถูกกัด ซึ่งน้องหญิงมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นศีรษะ ใบหน้า ก้น ขา และแขน ซึ่งนับบาดแผลทั้งหมดถึง 117 แห่ง โดยแพทย์ให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยไม่มีกำหนด และต้องฉีดยาฆ่าเชื้อทุก 8 ชั่วโมง เข็มละ 1,000 บาท โดยต้องควักเงินจ่ายเองนอกเหนือจากบัตร 30 บาท ซึ่งหากลูกสาวตนไม่สวมเสื้อกันหนาวอาจมีบาดแผลตามร่างกายมากกว่านี้
+ อ่านเพิ่มเติม