เช้าวันนี้ (2 พฤศจิกายน 2561) ขณะนี้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมากำลังเริ่มลุกลามขยายวงกว้าง โดยล่าสุดจังหวัดนครราชสีมาได้สำรวจพบพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้วจำนวน 19 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งหมด 32 อำเภอ มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 7 แสนไร่ ในจำนวนนี้เป็นนาข้าวกว่า 550,000 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นพืชสวนเกษตรอื่นๆ ซึ่งปัญหาภัยแล้งนอกจากทำให้เกษตรกรชาวนาได้รับความเดือดร้อนแล้ว ยังส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวในพื้นที่ด้วย
นายสมพร กสิประกอบ ผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวในพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภัยแล้งปีนี้ค่อนข้างรุนแรง และต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้งานเกี่ยวข้าวของตนหดหายไปมากกว่าครึ่ง จากเดิมที่จะมีลูกค้าจองคิวเกี่ยวข้าวทุกวันจนแทบไม่มีเวลาพักรถ แต่ในปีนี้ตนต้องดิ้นรนวิ่งหาคิวเกี่ยวข้าวด้วยตัวเอง ซึ่งปัจจุบันราคาค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวอยู่ที่ไร่ล่ะ 500 บาท แต่เกษตรกรหลายรายที่ได้รับกระทบจากภัยแล้ง นาข้าวให้ผลผลิตได้แค่เพียงบางส่วนก็ไม่คุ้มที่จะจ้างรถเกี่ยวข้าว เกษตรกรก็ได้หันไปจ้างแรงงานคนเกี่ยวข้าวเป็นรายวันแทน ซึ่งคาดว่าตนจะต้องสูญเสียรายได้จากการเกี่ยวข้าวในปีนี้ไปนับแสนบาทเลยทีเดียว
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง ในปี 2562 โดยเฉพาะเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค โดยได้สั่งการให้ทั้ง 32 อำเภอ หาพื้นที่สำรองน้ำไว้ใช้ และดำเนินการเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ โดยใช้ประโยชน์จากฝายประชารัฐที่ได้ดำเนินการสร้างขึ้น พร้อมกันนี้ให้ทุกอำเภอส่งข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคมายังทางจังหวัด เพื่อดำเนินการจัดหาน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม