ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร้อง ปปง. เอาผิด ประจักษ์ชัย พร้อมภรรยา และลำไย เลี่ยงภาษีและฟอกเงิน หลังผลเจรจาคืนที่ผ่านมา มีสมรักษ์ คำสิงห์ มาเป็นตัวกลางแจงอามต้องจ่าย 2 ล้านบาทถึงจะยอมยกเลิก จึงเดินหน้าเอาผิดทางกฏหมาย
(31 ต.ค. 61) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือให้เลขสำนักงานป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน โดยมีร.ต.ต.เอกไพรัตน์ เทศพานิชย์ เลขานุการกรม สำนักงานปปง.เป็นผู้รับมอบหนังสือและเอกสาร ในการตรวจสอบการหลีกเลี่ยงภาษี ของนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ หรือประจักษ์ชัย ไหทองคำ ผู้บริหารค่ายเพลง ไหทองคำ เรคคอร์ด,นางโยษิตา เนาวรัตน์ ภรรยา และนางสาวสุพรรณษา เวชกามา หรือลำไย ไหทองคำ นักร้องชื่อดัง หลังตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คน มีการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ที่เข้าข่ายพฤติกรรมร่วมกันฟอกเงินการฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากรมาตรา37ตรี และมาตรา37ทวิ พร้อมนำเอกสารหลักฐาน หนี้จดทะเบียนไหทองคำเรคคอร์ด จำกัด และเอกสารการแสดงคอนเสิร์ตของลำไยไหทองคำ ตั้งแต่ปี 2559-2560 ที่พบว่ามีรายได้ เกินกว่า 100 ล้านบาทนั้น
โดยนายอัจฉริยะ ระบุว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าตั้งแต่บริษัทไหทองคำจัดตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 59 แต่ยังไม่มีการจดทะเบียน โดยเพิ่งจะมีการจดทะเบียนปี 61 มีชื่อของภรรยานายประจักษ์ชัย เป็นคนถือหุ้นคนเดียว ซึ่งพบว่ายังไม่เคยมีกาเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคล ทั้งที่มีรายได้จากการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเดือนละกว่า 4 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมปีละ 40 ล้านบาท รวม 3 ปี กว่า 120 ล้านบาท โดยเชื่อว่าการหลีกเลี่ยงภาษีนี้มีเจ้าหน้าที่สรรพากรในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเข้าไปเกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้ที่ตั้งบริษัทที่ตั้งของบริษัทไหทองคำอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนเรื่องการเจรจา เมื่อวานนี้นายประจักษ์ชัยได้ติดต่อผ่าน นายสมรักษ์ คำสิงห์ แจ้งว่ายินดีจะฉีกสัญญาให้ แต่ต้องจ่ายเงินเป็นค่ายกเลิกสัญญา 2 ล้านบาท แต่ตนและน้องอามไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะตามหลักแล้วในเอกสารสัญญาของประจักษ์ชัยกับน้องอาม หากทำผิดสัญญาจะสามารถเรียกจ่ายค่าเสียหายฟ้องทางแพ่ง 2 ล้านบาทได้อยู่แล้ว และตัวน้องอามเองก็บอกว่าไม่มีเงินที่จะจ่ายให้ตามที่นายประจักษ์ชัยเสนอมา
ทั้งนี้ยืนยันว่าการเจรจายุติในเรื่องนี้จะต้องเป็นการเจรจากับนายประจักษ์ชัยเพียงคนเดียว และหากนายประจักษ์ชัยต้องการเจรจากับน้องอาม ตนก็ต้องอยู่ด้วย เนื่องจากผู้ปกครองของน้องอามและมารดาอ่านหนังสือไม่ออก จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้รับความยุติธรรม ยืนยันจะเดินหน้าเอาผิดทางกฎหมายในทุกกรณีและเรื่องนี้ต้องการเพียงแค่ยุติสัญญาของน้องอามกับบริษัทไหทองคําเพียงเท่านั้น โดยวันนี้ช่วงบ่ายนายประจักษ์ชัยจะ ส่งตัวแทนมาเพื่อเจรจา หาข้อยุติในเรื่องนี้แต่ยังอยู่ระหว่างการรอต่อกลับมาและจะมีการติดต่อผ่าน คุณหนุ่มกรรชัย พอธีกร ผู้ประกาศ ช่อง 3 เท่านั้น ทั้งนี้ ยังยืนยันว่าพร้อมเจรจากัน เพื่อผลประโยชน์ของน้องอาม ส่วนการยื่นร้องตามกฎหมาย ตนเองยังคงเดินหน้าดำเนินการตามกฎหมายต่อ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับสาธารณะ ส่วนฝ่ายของนายประจักษ์ชัย ได้ให้ทนายความได้ยื่นฟ้องกับตนเองในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ระบุว่า จะดำเนินการก็ดำเนินไป อย่างไรก็ตาม การตอบโต้เรื่องนี้ไม่ได้สาดโคลนกันไปมา น้องอามเพียงต้องการยกเลิกสัญญาต่อกันเท่านั้น พร้อมฝากไปยังนายประจักษ์ชัยที่เขื่อในทนายความมากเกินไป เบื้องต้นทางปปง. จะรอให้ทางกรมสรรพากร ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะส่งเรื่องให้อธิบดีกรมสรรพากรชี้มูลความผิด แล้วจึงจะส่งเรื่องให้ปปง.สืบยึดทรัพย์ หรือหากกรมสรรพากร จะดำเนินการยึดทรัพย์เองก็สามารถทำได้ แต่หากกรมสรรพากรเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ก็สามารถดำเนินการยึดทรัพย์เองได้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่ากรมสรรพากรจะใช้เวลาสืบสวนเรื่องดังกล่าว นานเท่าไหร่ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นกฎหมายใหม่ และยังไม่เคยมีการส่งเรื่องชี้ขาดมาก่อน
+ อ่านเพิ่มเติม