วันนี้ (24 ต.ค.) ตำรวจกองปราบปรามคุมตัวนายสุรพศ วงษ์ชีพ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นด็อกเตอร์และอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังก่อเหตุหลอกลวงหญิงสาวแต่งงานเพื่อหลอกเอาเงินผู้เสียหาย ขึ้นรถเพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาล
สืบเนื่องจากตำรวจกองปราบปรามได้รับการร้องเรียน จากผู้เสียหายว่าได้ถูกนายสุรพศ วงษ์ชีพ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นด็อกเตอร์และอาจารย์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยเข้ามาตีสนิทผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ อ้างตัวเป็นอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์ ก่อนที่ผู้เสียหายได้หลงเชื่อจึงได้ตกลงปลงใจคบหาด้วย และมีการขอยืมเงินไปจำนวน 8 แสนบาท กระทั่งมาทราบว่านายสุรพศ ไม่ได้เป็นอาจารย์จริงตามที่กล่าวอ้าง จึงแจ้งความ ตำรวจจึงติดตามจนจับกุมได้
เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 5 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท จากการตรวจสอบข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายสุรพศมักอ้างตัวเป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ อีกทั้งในเฟซบุ๊กส่วนตัวมีการปลอมประวัติการศึกษา โดยอ้างว่าจบปริญญาเอก 4 ใบ มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นรองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ขณะที่การสอบปากคำนายสุรพศ รับสารภาพว่า ไม่ได้เป็นอาจารย์จริงตามที่อ้าง แต่ได้มีการสร้างโปรไฟส์เพื่อหลอกให้หญิงสาวเชื่อถือเพื่อคบหาด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหลอกหญิงสาวคนหนึ่งจนแต่งงานด้วยกัน แต่ภายหลังถูกจับได้จึงได้เลิกรากันไป ก่อนที่จะไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาประมาณ 3 ปี โดยอ้างว่าเป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ เนื่องจากตนมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ เพราะว่าเคยทำงานบริษัทเอกชนด้านซอฟแวร์ ส่วนของรูปตนที่สวมชุดครุยที่อยู่ในเฟซบุ๊กนั้นก็ไปหาซื้อตามร้านเสื้อผ้า มาสวมใส่ถ่ายภาพ เพื่อใช้ในการหลอกลวง
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปฝากขัง ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุที่ก่อเหตุหลอกลวง พร้อมขอโทษผู้เสียหาย และยืนยันว่าไม่ใช่ด็อกเตอร์ตามที่อ้าง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการคุมตัวไปขออำนาจฝากขังเป้นผัดแรก ในข้อหาฉ้อโกง
+ อ่านเพิ่มเติม