คุมตัว 2 วัยรุ่น แทงหนุ่ม 22 ดับ กลางถนนนิมมานฯ ทำแผน ผู้ต้องหาเข้าก้มกราบเท้าพ่อผู้เสียชีวิต
logo ข่าวอัพเดท

คุมตัว 2 วัยรุ่น แทงหนุ่ม 22 ดับ กลางถนนนิมมานฯ ทำแผน ผู้ต้องหาเข้าก้มกราบเท้าพ่อผู้เสียชีวิต

ข่าวอัพเดท : วันนี้ (22 ต.ค.) ที่บริเวณปากซอยนิมมานเหมินทร์ 4 ถนนนิมมานเหมินทร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตสิน รักษาราชการแทนผู้บัง แทงกลางถนนนิมมาน,เชียงใหม่,ก้มกราบขอโทษ

10,134 ครั้ง
|
22 ต.ค. 2561
คุมตัว 2 วัยรุ่น แทงหนุ่ม 22 ดับ กลางถนนนิมนานฯ ทำแผน ผู้ต้องหาเข้าก้มกราบเท้าพ่อผู้เสียชีวิต
 
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่บริเวณปากซอยนิมมานเหมินทร์ 4 ถนนนิมมานเหมินทร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตสิน รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ 
 
นำตัวนายเอกลักษณ์ บุญภัสสร อายุ 30 ปี ชาว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายธีระกุล อายุ 18 ปี ชาว อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจากก่อเหตุร่วมกันใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงนายวรภัทร์ ครุฑธะกะ อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งระหว่างทำแผนผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ก้มลงกราบเท้าขอโทษพ่อของผู้ตายด้วย 
 
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.ของวันที่ 21 ต.ค. ที่บริเวณปากซอยนิมมานเหมินทร์ 4 ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างละเอียด พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนร่วมกันก่อเหตุ ก่อนที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมกับพวกรวม 3-4 คน 
 
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวนายอกลักษณ์ ได้ที่ร้านแทตทูแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ และจับกุมตัวนายธีระกุล ได้ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย พร้อมของกลางอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งรถจักรยานยต์ที่ใช้ขับขี่หลบหนีและเสื้อผ้าที่สวมใส่
 
เบื้องต้นผู้ต้องทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยก่อนเกิดเหตุนายเอกลักษณ์ ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับนายวรภัทร์ ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังช่องต่อยกัน นายธีระกุลเห็นว่านายเอกลักษณ์สู้ผู้ตายไม่ได้จึงเข้าช่วยเหลือ และได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงเข้าที่ลำตัวของผู้ตายจำนวน 2 ครั้ง 
 
แล้วนายเอกลักษณ์ได้เข้าชกพูดไปจนล้มลงกับพื้น จากนั้นมีชายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดมาแย่งมีดไป จากนั้นจึงได้เรียกนายเอกลักษณ์ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่นายธีระกุลขับขี่หลบหนีไป แต่สุดท้ายก็มาโดนติดตามจับกุมได้ในที่สุด
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง