'ศรีวราห์' เผย 'ตาต้า' รับยิงหมีขอจริง ชี้ 'อส.ออย' สั่งการ ย้ำมั่นใจพยานหลักฐานแน่นหนา
logo ข่าวอัพเดท

'ศรีวราห์' เผย 'ตาต้า' รับยิงหมีขอจริง ชี้ 'อส.ออย' สั่งการ ย้ำมั่นใจพยานหลักฐานแน่นหนา

ข่าวอัพเดท : พล.ต.อ.ศรีวราห์ สอบเครียด 2 มือยิงหมีขอ ป่าไทรโยค รับสารภาพกับเจ้าอาวาส สำนักสงฆ์เต่าดำ ตัดหัวหมีขอทิ้งน้ำ และตัดกรามให้สุนัขกิน มั่ หมีขอ,ล่าหมีขอ,ป่าไทรโยค,ชุดทำงานเสือดำ,ศรีวราห์,ยิงหมี,ยิงหมีขอ

1,898 ครั้ง
|
11 ต.ค. 2561
พล.ต.อ.ศรีวราห์ สอบเครียด 2 มือยิงหมีขอ ป่าไทรโยค รับสารภาพกับเจ้าอาวาส สำนักสงฆ์เต่าดำ ตัดหัวหมีขอทิ้งน้ำ และตัดกรามให้สุนัขกิน มั่นใจพยานหลักฐานแน่นหนาอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน  
 
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนตำรวจภูธรภาค 7 และพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค คุมตัว นายตาตา อายุ 41 ปี ชาวเมียนมา และ นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ ออย อาสาสมัครรักษาดินแดน ผู้ต้องหาคดียิงหมีขอ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สำนักงานตรำวจแห่งชาติ โดยคดีนี้พนักงานสอบสวน ได้สรุปพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้ต้องหากลุ่มที่ยิงหมีขอ ประกอบด้วย นายตาตา นายอนุสรณ์ และ นายสกานต์ แก่นหลวง ส่วนกลุ่มที่ร่วมกันชำแหละซากหมี คือ นายเจนระ หรือ จีระ ไม่ทราบนามสกุลชาวเมียนมา ซึ่งยังหลบหนี และนางสาวคิน หน่อยโซ ภรรยา นายเจนระ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าร่วมกันชำแหละหรือไม่
 
นอกจากนี้ยังมีการทำแผนผังกลุ่มผู้ต้องหา รวม 10 คน ที่อยู่ในขบวนออฟโรด รวมทั้ง นายวัชรชัย สมีรัก หรือ ปลัดแมน อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดย นายตาต้า ซักทอดว่า นายอนุสรณ์ กับ นายสกานต์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ตนไปยิงหมีขอที่หากินอยู่ห่างจากสำนักสงฆ์เต่าดำ 400 เมตร ตนจึงตัดสินใจไป โดยมีทั้งสองคนอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งก่อนยิงพบหมีขออยู่บนต้นไม้ จึงใช้อาวุธปืนขนาด .22 ของ นายอนุสรณ์ ยิงที่ศรีษะหมีจนร่วงตกต้นไม้ จากนั้นนำซากไปให้ นายเจนระ ชำแหละ ส่วน นางคิน ภรรยา นายเจนระ อยู่ระหว่างการนอนหลับ สำหรับซากหมีส่วนหัวตัดทิ้งลำห้วยในพื้นที่ ส่วนกรามโยนให้สุนัขกิน นอกจากนี้ นายตาตา ยังซักทอด นายอนุสรณ์ ยังพาไปจับ กบทูต หรือ กบภูเขา ที่ตำรวจพบ ทิ้งรวมอยู่กับซากหมีขอ ห่างจากจุดยิง 37 เมตร
 
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้ นายตาต้า ชี้ยืนยันกลุ่มยิง และร่วมกับชำแหละซากหมีขอ ซึ่งนายตาต้า สามารถชี้ยืนยันได้ถูกต้อง ด้าน นายอนุสรณ์ รับสารภาพว่าอาวุธปืนทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ยึดมีการวางแผนนำเข้าป่าตั้งแต่แรก โดย นายทัศดนัย ขอกระโชก และ นางสาวศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม และปลัดแมน ได้ใช้ปืน 11 มม. ที่ยึดได้ภายหลังยิงแก้บน บริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมเสบียงอาหารพักค้างแรม 
 
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่าคดีนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ขออำนาจศาลออกหมายจับรวม 14 คน จับกุมแล้ว 13 คน เหลือ นายเจนระ หรือ จิระ ที่ยังหลบหนี โดย นายอนุสรณ์ และ นายตาตา ถูกแจ้ง 7 ข้อหาหนัก อาทิ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าสงวน / ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครอง / ร่วมกันมีอาวุปืนและเครื่องกระสุนปืน พร้อมกำชับพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จ ภายใน 48 วัน หรือ ไม่เกินฝากขัง 4 ผลัด และมั่นใจพนักงานอัยการจะสั่งฟ้องผู้ต้องหา ยืนตามพนักงานสอบสวนทุกคนและทุกข้อหา ส่วนเหตุที่ผู้ต้องหากลับคำให้การจากอ้างว่าซื้อซากหมีขอจากชาวบ้าน 100 บาท เป็นรับสารภาพว่ายิง เนื่องจากจำนนด้วยพยานหลักฐาน นอกจากนี้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำตัว นายอนุสรณ์ ไปชี้จุดพบซากหมีขอในกระสอบ เนื่องจาก นายตาตา ไม่ได้เป็นคนทิ้งซากหมีขอ รวมทั้งสอบว่า นายตาตา ได้ค่าจ้างจากการยิงครั้งนี้หรือไม่ ส่วนตัว นายตาตา 
 
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่า ไปสารภาพผิดกับเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เต่าดำ โดยมีกลุ่มออฟโรดสั่งให้ยิง จึงต้องสอบปากคำเจ้าอาวาสประกอบสำนวนให้แน่นหนา สำหรับรถออฟโรด หมายเลขทะเบียน 3555 ที่ยึดไว้และพบว่ามีการดัดแปลงสภาพโครงรถ และมีพ.ต.ท.เป็นผู้ครอบครอง สั่งการให้ตรวจสอบว่ามีส่วนในการกระทำผิดหรือไม่
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง