ไฟไหม้โรงงานหลอมพลาสติกลุกลามไปโกดังเก็บสารเคมี วอดกว่า 10 ล้าน
logo ข่าวอัพเดท

ไฟไหม้โรงงานหลอมพลาสติกลุกลามไปโกดังเก็บสารเคมี วอดกว่า 10 ล้าน

ข่าวอัพเดท : วันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.อ.สุธาดา ศรีสุวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท บิ ไฟไหม้โรงงานหลอมพลาสติก,โกดังเก็บสารเคมี,สมุทรปราการ,ไฟไหม้ สมุทรปราการ

3,126 ครั้ง
|
08 ต.ค. 2561
ไฟไหม้โรงงานหลอมพลาสติกลุกลามไปโกดังเก็บสารเคมี วอดกว่า 10 ล้าน
 
วันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.อ.สุธาดา ศรีสุวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท บิ๊กไบร์ โปรเกส ซึ่งเป็นโรงงานหลอมพลาสติก ซอยเทศบาลบางปู 88 (โรงหมี่) ต.บางปูใหม่ อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ตอ.ประวิทย์ บุญธรรม ผกก.สภ.บางปู พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปูและเทศบาลใกล้เคียงจำนวน 10 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ 
 
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานชั้นเดียว ซึ่งภายในมีเครื่องจักรตั้งอยู่หลายเครื่อง ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และกำลังลุกลามไปลุกไหม้โรงงาน อัลฟ่า อินเตอร์พลาสเคม จำกัด ซึ่งเป็นโกดังเก็บสารเคมี ที่ปลูกติดกันทางด่านหลัง โดยมีชาวบ้านและคนงานของบริษัทดังกล่าวกำลังช่วยกันเอาน้ำมาสาดสกัดเพลิงและขนข้าวของออกจากบริษัทดังกล่าวอย่างอลหม่าน 
 
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้โรงงานดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้ง 2 โรงงาน ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกที่แขนทั้ง 2 ข้างเป็นเจ้าของโรงงาน ถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลรัทรินทร์บางปู ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
 
จากการสอบสวนนายสมบูรณ์ จินตรสถาพร อายุ 50 ปี ผู้บาดเจ็บและเป็นเจ้าของโรงงานหลอมพลาสติก ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ในขณะที่ตนนอนหลับอยู่ ได้สะดุ้งตื่นเพราะมีควันไฟจำนวนมากพวยพุ่งเข้าไปในห้องพัก จึงได้รีบลุกขึ้นมาดู ได้พบเห็นไฟไหม้ช่วงกลางโรงงานซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องจักรหลอมพลาสติก 
 
ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วจนทั่วตัวโรงงานและลุกลามไปลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ซึ่งปลูกสร้างอยู่ติดกับที่บริเวณด้านหลัง ด้วยความตกใจตนและชาวบ้านใกล้เคียงได้ช่วยกันลากสายยางไปฉีดน้ำสกัดเพลิงแต่เอาไม่อยู่จึงโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
 
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป