รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลสอบเงินคนพิการ ไม่พบข้อมูลการทุจริตของเจ้าหน้าที่ แต่พบผู้ประกอบการบางรายปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ซึ่งได้ส่งเรื่องให้กระทรวง พม. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนพิการ จำนวน 9 เรื่อง ซึ่ง จากการตรวจสอบข้อมูลทั่วไป และข้อมูลเฉพาะกรณีจากผู้ร้อง และ กลุ่มผู้พิการที่มาให้ข้อเท็จจริงจำนวน 150 คน และ การสอบข้อเท็จจริงสถานประกอบการ ผู้พิการในพื้นที่ ในชั้นนี้ พบว่า มีข้อมูลบางส่วนเป็นไปตามที่ร้องเรียนมา จำนวนผู้พิการเกี่ยวข้อง 200 คน มูลค่าความเสียหาย 14 ล้านบาท แต่เป็นการปฏิบัติของผู้ประกอบการที่ไม่ครบถ้วนตามสัญญาการยื่นขอให้สิทธิ จำนวน 7 เรื่อง ยังไม่พบความบกพร่องและทุจริตของเจ้าหน้าที่
โดยกรณี มาตรา 33 พบ จำนวน 2 เรื่อง เป็นการจ้างไม่ครบระยะสัญญา และ มาตรา 35 จำนวน 5 เรื่อง เป็นปฏิบัติไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามสัญญา เช่น จัดอบรมไม่ครบตามระยะเวลา จำนวนผู้พิการเข้าอบรมไม่ครบตามจำนวนที่แจ้ง ซึ่งกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้มีหนังสือแจ้งไปยังกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตตนพิการ พ.ศ.2550 พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
ทั้งนี้สำหรับผู้พิการในประเทศไทยจำนวน 1.9 ล้านคน มีสถานประกอบการที่ต้องจ้างแรงงานผู้พิการ จำนวนทั้งสิ้น 64,570 คน โดยมาตรา 33 เป็นการจ้างงานโดยตรงระหว่างผู้พิการกับผู้ประกอบการจำนวน 36,315 คน กระทรวงแรงงานมีส่วนช่วยเหลือโดยการขึ้นทะเบียนคนพิการที่ประสงค์จะทำงาน และประสาน
ส่งต่อเพื่อให้นายจ้างคัดเลือกและบรรจุงาน ซึ่งในปี 2561 บรรจุงานได้ จำนวน 1,565 คน
มาตรา 34 มีการส่งเงินเข้ากองทุน จากผู้ประกอบการประมาณ 1,200 แห่ง เป็นการทดแทนการจ้างผู้พิการ 14,623 คน รวมเป็นเงินประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อปี (ปี 60) ซึ่งคิดอัตรา 1 คนเท่ากับ 109,500 บาทต่อคนต่อปี
ส่วนมาตรา 35 เป็นกรณีสถานประกอบการให้สิทธิผู้พิการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการประกอบอาชีพ 7 ประเภท มีผู้พิการใช้สิทธิจำนวน 12,499 คน โดยของกระทรวงแรงงานร่วมดำเนินการในการพิจารณาเห็นชอบโครงการที่ผู้ประกอบการเสนอให้สิทธิแก่ผู้พิการ คือ
1.กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเห็นชอบในการพิจารณาความเหมาะสมของหลักสูตรการฝึกอบรม
2.กรมการจัดหางานตรวจสอบว่าคนพิการมีตัวตนจริงหรือไม่
3.กรมการจัดหางานตรวจสอบผู้พิการรับทราบประเภทสิทธิ และมูลค่าที่จะได้รับจากการส่งเสริมอาชีพหรือไม่
และ 4.กรมการจัดหางานตรวจสอบว่าสิทธิที่ผู้พิการ
จะได้รับจากการเข้ากิจกรรม หรือโครงการเป็นไปตามที่ผู้ประกอบการยื่นขอสิทธิหรือไม่
พล.ต.อ.อดุลย์ ได้กล่าวขอบคุณ ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการและผู้พิการที่มาให้ข้อมูลในครั้งนี้ เพื่อสิทธิประโยชน์ของคนพิการ และขอฝากให้มูลนิธิ สมาคมและกลุ่มผู้ดูแลผู้พิการทั้งหลายได้ร่วมกันปกป้องสิทธิและประโยชน์ของผู้พิการ หากมีข้อมูล ข้อเท็จจริงใดๆ เกี่ยวกับความบกพร่องในการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว ขอให้ผู้พิการซึ่งเป็นผู้เสียหายเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อเท็จจริง เพื่อเจ้าหน้าที่
จะได้ตรวจสอบและปกป้องสิทธิและประโยชน์อันพึงมีพึงได้ของผู้พิการ และดำเนินการกับผู้ปฏิบัติบกพร่อง หรือ ผู้มีพฤติกรรมทุจริตตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายต่อไป