วันนี้ (4 ต.ค. 61) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวในพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้เดินทางไปพบ นางสาวจันทร์สว่าง ฤทธิวรรณ อายุ 39 ปี แม่ของนาย รวิภาส อันธพันธ์ อายุ 19 ปี หลังมีเพจข่าว ได้มีการโพสต์ข้อความลงในโซเชียลว่า #เก๋งดำใจอำมหิต #ชนทับหนี
เคสพนักงานร้านสะดวกซื้อถูกรถเก๋งสีดำชนท้ายรถจักรยานยนต์ติดใต้ท้องรถ พาลากไปไกล ตัวคนหลุดแทนที่จะลงมาดูหรือช่วยเหลือ กับจงใจขับรถทับร่าง ฝากช่วยกันแจ้งข้อมูลเบาะแสส่งมาเพื่อติดตามคนขับรถเก๋งสีดำจิตใจสุดอำมหิตกัน
เหตุเกิดเวลาประมาณ 00.40 น. คืนวันที่ 29ก.ย.น้องไบร์ทเด็กผู้ชายอายุ 19 ปี เลิกงานจากร้านสะดวกซื้อ ขี่รถจักรยานยนต์กำลังบ้าน ขณะวิ่งไปตามเส้นทางถนนหนองตะเคียน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ หน้าคิวรถสวัสดิการฐานทัพเรือ มีรถเก๋งสีดำ ขับพุ่งชนท้ายรถน้องไบร์ท ทับร่างตัวติดอยู่ใต้ท้องรถเก๋ง คนขับรถเก๋งสีดำไม่หยุดกับเร่งเครื่องลากตัวน้องติดรถ มาถึงหน้าปั้มบางจาก เมื่อร่างน้องไบร์ทหลุดจากใต้ท้องรถสีดำ คนขับทับร่างซ้ำ
รถเก๋งสีดำยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค หรือไม่ก็ ฮอนด้าซิตี้ ตำรวจสภ.สัตหีบ แค่รับแจ้งไว้เบื้องต้นว่ารถเก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีทรัพย์สินเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สอบถาม นางสาวจันทร์สว่าง ฤทธิวรรณ อายุ 39 ปี เผยว่า อาการล่าสุดของลูกชายปลอดภัยแล้ว หลังมีบาดแผล แตกที่หน้าผาก แขนข้างขวา หัก และถลอกตามตัว อยากจะฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมอยากจะฝากข้อความไปยังคนขับรถเก๋งคันดันดังกล่าว อยากให้เขาออกมารับผิดชอบกับการกระทำของเขา คือเขาน่าจะจอดดูน้องซักนิด เอาน้องไป ส่ง รพ.ก็ยังดีแต่นี้ เขาหนีอย่างเดียวไม่มีการลงมาดูเลย
ด้าน ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ คำกอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้กล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองสัตหีบ วงจรปิดหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นภายในค่าย และกล้องของหน่วยทหาร และสภ.สัตหีบ พบเป็นรถเก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ กันชนหน้าหลุด มีผู้ชายมีอายุเป็นคนขับ แต่ภาพวงจรปิดไม่สามารถจับภาพเลขทะเบียนได้เนื่องจากมีแสงไฟสะท้อน จากป้ายทะเบียน ทำให้มองไม่ชัด แต่ขณะนี้พอทราบเลขทะเบียนบางส่วนแล้ว ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่เก๋งหลบหนีแล้ว พร้อมประสานไปยังชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ ให้ลงพื้นที่ติดตามรถเก๋งคันดังกล่าวแล้ว หากระบุได้เป็นรถของใคร จะทำการเรียกตัวมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ในทันที่ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามรถเก๋งคันดังกล่าวอยู่
+ อ่านเพิ่มเติม