5 หน่วยงานรัฐจับมือดันร้านโชห่วยขายออนไลน์ 750 ร้าน ในปีหน้า
logo ข่าวอัพเดท

5 หน่วยงานรัฐจับมือดันร้านโชห่วยขายออนไลน์ 750 ร้าน ในปีหน้า

ข่าวอัพเดท : 5หน่วยงานรัฐจับมือดันศักยภาพร้านค้าโชห่วย ขายสินค้าผ่านออนไลน์ ตั้งเป้าระยะแรก750 ร้านค้าภายในเดือนมกราคมปีหน้า และมีกำไรเพิ่มขึ้น10% ร้านค้าโชห่วย,สินค้าออนไลน์,ขายสินค้าผ่านออนไลน์,กระทรวงพาณิชย์,ธ.ก.ส,ขายของออนไลน์

3,032 ครั้ง
|
02 ต.ค. 2561
5 หน่วยงานรัฐจับมือดันศักยภาพร้านค้าโชห่วย ขายสินค้าผ่านออนไลน์ ตั้งเป้าระยะแรก750 ร้านค้าภายในเดือนมกราคมปีหน้า และมีกำไรเพิ่มขึ้น10%
 
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงร่วมกัน ในโครงการสนับสนุน โชว์ห่วยชุมชน ระหว่างจาก 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส โดยจัดขึ้นเพื่อพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์แบบ B2B หรือธุรกิจต่อธุรกิจผ่านแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ เพิ่ม ความสะดวก ในการสั่งซื้อสินค้าจากร้านโชห่วยในชุมชนต่างๆไปยังผู้ผลิต ที่ไม่สามารถแข่งขันในตลาดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคได้ โดยเฉพาะร้านโชห่วยที่อยู่ห่างไกลเนื่องจากมีต้นทุนในการซื้อและสต๊อกสินค้า ที่จะนำมาจำหน่ายในร้านเนื่องจากมีกำลังซื้อจำกัดทำให้ไม่สามารถต่อรองเรื่องราคาต้นทุนกับผู้ผลิตและส่วนใหญ่ยังไม่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสั่งซื้อสินค้า อย่างเป็นระบบ
 
ทั้งนี้บริษัทไปรษณีย์จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางหลักระหว่างร้านโชห่วยกับผู้ผลิต บริหารคำสั่งซื้อสินค้า บริหารคลังสินค้า และจัดส่ง รวมทั้งชำระเงินจากร้านค้าโชว์ห่วยแบบออนไลน์ โดยมีกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาและประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าต่างๆรับรู้รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส จะร่วมสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ร้านโชห่วยในระยะสั้น 
 
โครงการนี้นอกจากจะช่วยให้ร้านโชห่วยสามารถลดต้นทุนสินค้าจากการรวมซื้อได้แล้วยังเป็นการสร้างกลไกในการนำสินค้าจากชุมชนให้สามารถนำออกมาจำหน่ายทั่วประเทศได้อีกด้วย การขายบนออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อให้ร้านโชว์ห่วยอื่นๆสามารถสั่งสินค้าไปขายได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยขยายตลาดสินค้าชุมชนให้แพร่หลายโดยในระยะแรกจะนำร่อง 3 จังหวัดคือจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี กำหนดเป้าหมายร้านค้าเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 750 ร้านภายในเดือนมกราคม 2562 โดยตั้งเป้าให้ร้านค้ามีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์และคาดว่าจะขยายให้ครอบคลุมร้านโชห่วยในทุกจังหวัดได้ประมาณ 4หมื่น ร้านภายใน 3 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง