เผาแล้ว แม่-ลูกวัย 5 ขวบ ถูกญาติคลั่งใช้ค้อนทุบจนเสียชีวิต ตร.เผยผู้ต้องหายังไม่มีสติรับรู้ ไม่สามารถให้การได้

38,548 ครั้ง

30 ก.ย. 2561

แชร์ข่าวไปที่

ขอนแก่น-เผาแล้ว แม่และลูกวัย 5 ขวบ ถูกญาติแท้ ๆ ทำร้ายร่างกายด้วยค้อนจนเสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ปลัดจังหวัดชูเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ครอบครัวไหนมีคนเสพยา เท่ากับมีฆาตกรในบ้าน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่นำตัวไปบำบัด

จากกรณี นายกอบกู้ สีฐาน หรือโหน่ง อายุ 32 ปี ใช้ค้อนทุบศีรษะ และตามร่างกาย ด.ช.รัชตะ โตล่ำ หรือน้องเปา หลานชายวัย 5 ขวบ และ น.ส.จิราภรณ์ ดอนเรือนไพร อายุ 26 ปี หรือกวาง แม่ของน้องเปา จนเสียชีวิต 2 ราย โดยหลังจากเกิดเหตุนายโหน่ง ได้ถือค้อนและหยิบเอามีดปลายแหลมวิ่งไปหลบอยู่บนบ้าน กระทั่งแม่ของนายโหน่ง แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไป

ซึ่งสาเหตุทางญาติบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นายโหน่ง คลุ้มคลั่งเนื่องจากเป็นผู้ป่วยจิตเวชและขาดยา แถมยังเสพยาบ้าและถูกภรรยาทิ้งไป จนนายโหน่ง กลายเป็นคนซึมเศร้าไม่ค่อยพูดจากับใคร กระทั่งก่อนเกิดเหตุนายโหน่ง ได้ซื้อเบียร์ผสมกับเครื่องดื่มชูกำลัง แล้วขับรถวนไปวนมาในหมู่บ้าน ก่อนจะมานั่งที่เปลหน้าบ้านตัวเอง โดยน้องเปาและแม่ นั่งเล่นดูทีวีอยู่ภายในบ้านตามปกติ พอทั้งคู่เดินออกมานายโหน่ง ก็ใช้ค้อนทำร้ายร่างกายทั้งคู่จนมีผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ก.ย.2561 ญาติของผู้เสียชีวิตได้เคลื่อนย้ายศพจากบ้านมาทำพิธีฌาปนกิจภายในบริเวณ เมรุป่าช้าบ้านท่าเกษม หมู่ 11 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยมีนายอลกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายฆารวาส มีญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน และหน่วยงานต่าง ๆ เดินทางมาร่วมวางดอกไม้จันทน์ ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นครั้งสุดท้าย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ซึ่งศพของ น.ส.จิราภรณ์ ผู้เป็นแม่ได้ตั้งศพอยู่บนเมรุใหญ่ ส่วนศพของน้องเปา ได้ทำเป็นกองฟอนสำหรับฌาปนกิจ โดยอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ก่อนที่พิธีการจะเริ่มให้ทุกคนวางดอกไม้จันทน์เพื่อไว้อาลัย และทำพิธีเผาศพส่งดวงวิญญาณให้ไปสู่สุขติ ซึ่งมีญาติ ๆ และเพื่อนร่วมงานของ น.ส.จิราภรณ์ และน้องเปา รวมทั้งผู้ที่มาร่วมงานต่างกลั้นนํ้าตาเอาไว้ไม่อยู่กับเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้น

พร้อมกันนี้ นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบเงินช่วยเหลือทางครอบครัวของผู้ตาย พร้อมทั้งประกาศกลางงานศพให้ผู้ที่มาร่วมงานทั้งหน่วยงานรัฐและชาวบ้าน ได้รับทราบถึงโทษของยาเสพติด และให้เอาเหตุการณ์สลดนี้เป็นอุทาหรณ์ หากบ้านไหนมีคนเสพยาบ้า ถือว่ามีฆาตกรอยู่ในบ้าน ให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือผู้นำชุมชน ได้นำตัวไปบำบัดและคืนคนดีสู่สังคม เป็นผู้ที่เสพยาบ้า มักจะขาดสติ ทั้งฆ่า ข่มขืน ตามที่เคยมีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนมาแล้วมากมาย

ขณะที่ความคืบหน้าทางด้านคดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.ท.เพิ่ม นาคำ รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้หลังจากได้ควบคุมตัวนายโหน่ง ส่งรักษาตัวกับแพทย์โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นนั้น ตัวผู้ต้องหาเองยังไม่สามารถให้การได้ เนื่องจากยังไม่มีสติรับรู้ แต่สำนวนคดีนี้ได้ส่งฟ้องไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และแม้ว่าผู้ต้องหายังไม่โดนดำเนินคดีในขณะนี้ แต่หากมีสติพูดจารู้เรื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไปควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทันที เพราะฉะนั้นผู้ต้องหารายนี้ไม่มีทางรอดจากกฎหมายไปได้