ศาลจังหวัดชลบุรี ชั้นต้นตัดสินคดีลุงวิศวะแล้ว ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา โทษจำคุก 10 ปี ปรับพกพาอาวุธปืนที่สาธารณะ จำนวน 2,000 บาท
จากกรณีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง หรือ ‘ลุงวิศวะ’ ถูกกลุ่มวัยรุ่นกรูเข้าล้อมรถเก๋งและพยายามจะเข้าทำร้าย จึงใช้ปืนยิงสวนถูกนายนวพล หรือ ปอน ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าที่ตั้งครกใหญ่ สามแยกถนนอ่างศิลา ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2560
โดยอัยการสั่งฟ้องนายสุเทพ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ในส่วนของกลุ่มเพื่อนของนายนวพล คือ นายณัฐวุฒิ โสมทัศน์ นายอดิศร แสนศักดิ์ และนายกมล แจ่มวัย ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น
ซึ่งนายณัฐวุฒิกับพวกรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ที่รุมทำร้ายนายสุเทพ ศาลจังหวัดได้มีการพิจารณา จำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังเป็นเยาวชนโทษจำให้รอลงอาญา คุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี และนายนิพนธ์ ทองสี คนขับรถตู้ถูกฟ้องในข้อหาจอดรถลักษณะกีดขวางการจราจร สั่งปรับ 1,000 บาท โดยตัดสินไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.20น. ทางนายสุเทพ และภรรยา ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ที่ศาลจังหวัดชลบุรี โดยศาลตัดสินที่ห้องพิจารณาที่ 2 ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ศาลพิเคราะห์เห็นว่า พยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริง
หลังเกิดเหตุมิได้หลบหนีไปไหน และยอมรับกับเจ้าพนักงานตำรวจในทันทีว่าเป็นคนยิงคนตาย ประกอบกับผู้ตายมีส่วนร่วมในการกระทำผิด เห็นสมควรลงโทษจำเลยในสถานเบา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,00 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาทยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของนางสาวมณีพร ผึ่งผาย มารดาของผู้ตาย และให้ถือว่านางสาวมณีพรอยู่ในฐานะผู้ร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเท่านั้น ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง
หลังจากนั้น วันชัย แสงสุวรรณ์ ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิต เผยว่า เป็นเรื่องปกติของจำเลยที่ต้องมีสีหน้าเครียด แต่ก็ยังยังยืนต่อศาลเป็นการป้องกันตัว แต่ทางศาลเห็นว่าจำเลยสมัครใจเข้าไปมีส่วนร่วมทะเลาะวิวาทมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง จึงได้มีการพิพากษาตัดสินจำคุก 10 ปี ปรับ 2 พันบาทในข้อหาพกพาอาวุธปืน
ด้านทางนายสหภาพ วงศ์ธรรมเจริญ พ่อของนายนวพล ผู้ตาย กล่าวว่ารู้สึกพอใจในตัดสินของศาล จึงอยากฝากไปถึงดวงวิญญาณของน้องปอน ว่าทำสำเร็จแล้ว ให้คนผิดได้รับโทษ และขอขอบคุณในความยุติธรรม หลังศาลพิพากษา ศาลได้สั่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายสุเทพ ไว้ในห้องควบคุมชั่วคราวของศาล เพื่อรอดำเนินการประกันตัวในชั้นศาลอุธรณ์
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ศาลอนุญาตให้ประกันตัวเหตุผลเพราะจำเลยไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนีและมีอาชีพการงานเป็นหลักแหล่ง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ขณะที่ นายสุเทพ ขอไม่ออกความเห็นใดๆ และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิน แต่จะขอสู้ในชั้นศาลอุธรณ์ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม