กระบะถูก จยย. ตัดหน้าหักหลบพุ่งชนรั้ว ร.ร.ฝั่งโรงอาหาร เคราะห์ดียังไม่ถึงเวลาพักเที่ยง
logo ข่าวอัพเดท

กระบะถูก จยย. ตัดหน้าหักหลบพุ่งชนรั้ว ร.ร.ฝั่งโรงอาหาร เคราะห์ดียังไม่ถึงเวลาพักเที่ยง

ข่าวอัพเดท : กระบะถูกรถจักรยานยนต์ตัดหน้าขณะเลี้ยว คนขับกระบะหักพวงมาลัยหลบจนรถเกิดเสียหลักพุ่งชนรั้วโรงเรียนฝั่งโรงอาหาร เคราะห์ดียังไม่ถึงเวลาร พุ่งชนรั้ว ร.ร.ฝั่งโรงอาหาร,กระบะชนรั้วโรงเรียน,กระบะหักหลบขอนแก่น

1,251 ครั้ง
|
27 ก.ย. 2561
กระบะถูกรถจักรยานยนต์ตัดหน้าขณะเลี้ยว คนขับกระบะหักพวงมาลัยหลบจนรถเกิดเสียหลักพุ่งชนรั้วโรงเรียนฝั่งโรงอาหาร เคราะห์ดียังไม่ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน
 
วันนี้ (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนบ้านกอกว่ามีรถกระบะพุ่งชนรั้วโรงเรียนได้รับความเสียหาย หลักรับแจ้งจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
 
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุโรงเรียนบ้านกอก บริเวณ 3 แยก ถนนบ้านกอกตัดกับถนนเลียบบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ พุ่งชนรั้วกำแพงโรงเรียนฝั่งโรงอาหารได้รับความเสียหายแตกกระจายยาวเกือบ 8 เมตร รถกระบะได้รับความเสียหายที่หน้ารถ และบริเวณข้างรถเล็กน้อย ซึ่งเป็นรถของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น
 
จากการสอบถามตำรวจ สภ.บ้านเป็ดทราบว่า จากการสอบถามคนขับรถกระบะเบื้องต้น ให้การว่า ขณะนั้นขับรถมาจากทางมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อมาถึง 3 แยกได้เลี้ยวขวาออกมามุ่งหน้าไปทางบึงหนองโคตร จังหวะนั้นมีรถจักรยานยนต์ขับมาด้วยความเร็วตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด จึงหักพวงมาลัยหลบกระทั่งเสียหลักพุ่งชนรั้วโรงเรียนดังกล่าว แล้วรถจักรยานยนต์คันนั้นก็ขับไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
ด้านนายสายยนต์ แก้วแสนเมือง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกอก เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่นักเรียนขึ้นไปเรียนบนอาคารหมดแล้ว และโชคดีที่ไม่ใช่เวลารับประทานอาหารกลางวัน เพราะจุดเกิดเหตุรถได้พุ่งชนเข้ามาถึงบริเวณที่เด็กนักเรียนของโรงเรียนใช้เป็นสถานที่รับประทานอาหารกลางวัน 
 
โดยเบื้องต้น ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทเจ้าของรถคันดังกล่าวแล้ว โดยทางบริษัทยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กลับมาเป็นเช่นเดิม พร้อมกันนี้คาดว่าจะเปลี่ยนสถานที่สำหรับรับประทานอาหารของนักเรียน ให้ห่างจากรั้วกำแพง เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกจะได้ไม่มีเด็กนักเรียนหรือบุคลากรในโรงเรียนได้รับบาดเจ็บ