(26 ก.ย. 61) วันนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เขตราชเทวี ติดตามการจัดระเบียบปัญหานกพิราบ โดยมีสำนักอนามัยและกรมปศุสัตว์ ร่วมกันจับและสุ่มตรวจหาเชื้อจากนกพิราบ เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจติดมาสู่คน
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ปัญหาเรื่องนกพิราบจำนวนมากที่สร้างความเดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นแหล่งของเชื้อโรคที่อาจติดมาสู่คนในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายทั้ง 50 เขต ไปสำรวจและประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงขอความร่วมมืองดให้อาหาร เพื่อเป็นการตัดวงจรและช่วยลดจำนวนนกพิราบ โดยในวันนี้ได้มาลงพื้นที่เขตราชเทวี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่พบนกพิราบจำนวนมาก ซึ่งทางเขตได้นำป้ายมาติดประชาสัมพันธ์เอาไว้ในพื้นที่แล้ว
พร้อมกันนี้ทางสำนักอนามัย ยังได้มาสุ่มจับนกเพื่อตรวจหาเชื้อจากเลือดและสารคัดหลั่ง รวมถึงเก็บตัวอย่างมูลนกพิราบในพื้นที่ไปตรวจสอบร่วมด้วย ทั้งนี้เนื่องจากนกพิราบเป็นสัตว์พาหะนำโรคชนิดหนึ่ง โดยเชื้อที่พบจากมูลเป็นเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ ก่อให้เกิดโรคคริปโตคอกโคสิส โรคระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง หรือติดเชื้อที่สมองหรือตา นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปอดบวมด้วย โดยสามารถเข้าสู่ร่างกายคนเราได้จากการสัมผัสหรือสูดดมสปอร์เชื้อราที่ฟุ้งกระจายในอากาศ
สำหรับมาตรการหลังจากนี้ ภายหลังขอความร่วมมือจากประชาชนงดให้อาหารแล้ว หากยังพบการฝ่าฝืนอาจจำเป็นต้องนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ โดยจะค่อยๆดำเนินจากเบาไปหาหนัก กรณีให้อาหารจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ระวางโทษ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท และยังถือเป็นการก่อเหตุรำคาญซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ในส่วนของผู้ค้าขายอาหารนกก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ ของกรมปศุสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
+ อ่านเพิ่มเติม