เกิดคดีสะเทือนขวัญเกิดขึ้นอีกครั้งที่จ.กาญจนบุรี โดยเป็นคดีที่ญาติมาร้องเรียนกองปราบปรามว่า นายนวพงษ์ สัจธรรมภิวัฒน์ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกว่า 3 ปีตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2558 ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ลงพื้นที่ออกติดตามสืบสวน หาข้อมูลจนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายภูมิผาทอง ผาทองภูมิ หรือใหญ่ / นายโซนี่ และ นายอิม ชาวพม่า / นายโอม นายกอล์ฟ หลานคนตาย
เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) พันตำรวจเอก ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการกอง 5 กองบังคับการปราบปรามพร้อมกำลัง นำตัวผู้ต้องหาไปค้นหาร่างของผู้ตายที่นำไปฝั่งไว้ในป่ามัน ใกล้กับสวนป่าไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่านำศพผู้ตายมาฝั่งที่ไร่มัน จาการสอบสวน นายใหญ่ยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่าฆ่าผู้ตายเพราะ ผู้ตายมีไสยศาสตร์มนต์ดำ หากปปล่อยไว้จะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน จึงต้องลงมือฆ่า แล้วมาอำพรางศพ
ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งหมด สุดโหดเหี้ยม คือ นายใหญ่ อดีตเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่ง สนิทคุ้นเคยกับครอบครัวผู้ตาย จนกระทั่งนายใหญ่ถูกขับไล่ออกจากวัด ผู้ตายก็อนุเคราะห์เลี้ยงดู ให้ช่วยธุรกิจงานที่บ้าน เหมือนเป็นคนในครอบครัว จนกระทั่งต้นปี 58 ก็สร้างบ้านพร้อมที่ดินให้นายใหญ่อยู่ ในราคาหลักล้าน
แต่ช่วงเดือนสิงหาคม ผู้ตายจับได้ว่านายใหญ่ มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยา และขอคืนบ้านและสมบัติทุกอย่างที่เคยให้นายใหญ่ ทำให้นายใหญ่โกรธแค้น วางแผนฆ่า ด้วยการให้ลูกและเมียผู้ตายไปนอนที่บ้านสวน และลงมือฆ่าด้วยการฟาดด้วยไม้จนสลบแล้วใช้มีแทงตาย จากนั้นก็นำศพ ไปเผาที่ป่ามันจุดฝั่งศพ โดยเอาที่นอนที่ผู้ตายนอนมาเป็นเชื้อเพลิง แต่ปรากฏว่าเผาไปศพคนตายกลับไม่ยอมไหม้ ตอนนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็กลับลงมาบ้านเพื่อวางแผนฝั่งศพ พอรุ่งเช้านายใหญ่ให้ลูกน้องไปฝั่งศพ กลับเจอเรื่องอาถรรพ์ เห็นร่างคนตายยืนอยู่ ลูกน้องกลัวมาก จึงมาเรียกให้นายใหญ่ไปจัดการศพเอง นายใหญ่จึงโมโห มาถึงก็ใช้มีดฟันที่ศพ จนหัวขาด แล้วให้ลูกน้องฝังศพ ส่วนนายใหญ่ เดินหิ้วหัวคนตาย กลับมากระท่อม แล้วเผาส่วนหัวด้วยตนเอง และนำเศษเถ้าไปลอยน้ำ
จากนั้นเวลาผ่านมานายใหญ่ก็อาศัยอยู่กินกับภรรยาของคนตายและลูกทั้งสามคน โดยนายใหญ่จะข่มขู่ลูกๆและสั่งห้ามมออกนอกบ้าน ไม่ให้พบปะผู้คน ช่วงนั้นภรรยาของคนตายก็บอกลูกว่าพ่อไปบวชที่ประเทศพม่า แต่ลูกชายคนโตไม่เชื่อและสงสัยคาใจมาตลอดว่าพ่อหายไปไหน
ตลอดเวลา 3 ปี ที่ไม่มีพ่อ ลูกๆของคนตายถูกนายใหญ่กดดัน ข่มขู่ จนเกิดอาการหวาดผวา และมีอากการซึมเศร้า นายใหญ่อาศัยอยู่กับภรรยาคนตาย และย้ายไปทำโฮมเสตย์ที่หมู่บ้าน ปิล๊อกอิต่อง อ.ทองผาภูมิ และลูกชายของคนตายก็ย้ายไปอยู่กับญาติที่จ.นครปฐม
นายอาร์ม ลูกชายคนตาย เล่าว่าตลอดเวลาที่ขาดพ่อ ชีวิตเหมือนตกนรก ถูกนายใหญ่กดดัน ขู่ฆ่ามาตลอด ตนและน้องๆก็กลัวและผวาตลอด จนกระทั่งช่วงต้นเดือนส.ค.61ที่ผ่านมา ลูกน้องของนายใหญ่ 3 คน มาสารภาพว่า ได้ร่วมลงมือก่อเหตุฆ่าพ่อของตน โดยมีนายใหญ่เป็นคนบงการ ตนจึงนำเรื่องไปบอกญาติและเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบให้ช่วยคลี่คลายคดี จนสมารถจับกุมนายใหญ่และพวกที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดได้
สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ตร.แกะรอยจนตามจับกุมผู้ต้องหาได้ครบ และเมื่อวาน (29 ส.ค.) พยายามขุดหากระดูกของผู้ตาย แต่ยังไม่พบ เนื่องจากบริเวณที่ฝั่งนั้นเป็นป่ามันติดภูเขา มีดินสไลด์ลงมาทับ ตำรวจใช้รถแบ๊คโฮลมาขุด
ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และจะนำตัวมาแถลงที่กองปราบปรามต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบอดีตพระพร้อมสมุน ฆ่าโหดนายจ้างฝั่งป่า 3 ปี แค้นถูกจับได้เป็นชู้กับเมีย เฮี้ยนเผาศพไม่ไหม้ ต้องตัดหัวล้างอาถรรพ์
+ อ่านเพิ่มเติม