ทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาสามเณรเหยื่อหลวงตาโหด เผยอาการของสามเณรยังคงโคม่า หลังพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองและสมองบวมอย่างหนัก ประกอบกับสัญญาณชีพอ่อนจึงไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ ทำได้เพียงให้ยาเท่านั้น ขณะที่แม่ของสามเณรยืนยันยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจขอเวลาสองวันหวังมีปาฏิหาริย์เกิด
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นายแพทย์กิตติ อินทราสุขพร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาพร้อมด้วยนายแพทย์วสุ ศรีวสุรา ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาสามเณร อายุ 8 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกพระศุภชัย สุทธิญาโณ หลวงตาที่จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอท่ามะกาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงอาการล่าสุดของสามเณร ซึ่งขณะนี้ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ว่า อาการของสามเณรยังคงอยู่ในขั้นโคม่า ซึ่งนอกจากบาดแผลที่คาง รอยฟกช้ำตามแขนขา ใบหน้าและที่ศรีษะ รวมถึงกระดูกข้อมือขวาที่ผิดรูปแล้ว อาการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดก็คือที่บริเวณสมอง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองและมีภาวะสมองช้ำอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดอาการสมองบวม ซึ่งต้องรักษาโดยการผ่าตัดแต่เนื่องจากสามเณรมีสัญญาณชีพเปลี่ยนแปลงแย่ลงอย่างรวดเร็ว ทีมแพทย์จึงไม่สามารถทำการผ่าตัดได้
ขณะนี้ ยังคงรักษาโดยการให้ยาตามอาการและใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบว่า สมองมีอาการผิดปกติเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำการผ่าตัดได้เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง ทีมแพทย์จึงทำได้เพียงให้ยาประคองอาการเท่านั้น พร้อมทั้งแจ้งความคืบหน้าให้พ่อกับแม่ของสามเณรทราบเป็นระยะ
ขณะที่ นางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น อายุ 31 ปี แม่ของสามเณร กล่าวว่า ได้ทราบอาการของลูกชายจากแพทย์ที่ทำการรักษาตลอดเวลาและได้มีการพูดคุยหารือกับพ่อของสามเณรแล้ว โดยตกลงร่วมกันว่าจะยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจของสามเณรออก โดยจะขอรอดูอาการอีก 2 วัน เนื่องจากยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับลูกชาย ทำให้กลับฟื้นคืนสติรู้ตัวขึ้นมา แม้จะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปก็ไม่เป็นไร
ส่วนเรื่องของคดีความที่ตำรวจควบคุมตัวหลวงตาที่เป็นคนก่อเหตุไปทำการสึกพร้อมทำการสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลูกแกเรียบร้อยแล้วนั้น ตนก็อยากจะขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างรวดเร็ว โดยตนยืนยันว่าจะขอเอาเรื่องกับหลวงตาที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรีและเจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็กจังหวัดกาญจนบุรีที่ได้มาร่วมฟังการแถลงอาการของสามเณรวัฒนพลกล่าวว่า ขณะนี้จะได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่วัดเกิดเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกชาย อายุ 6 ขวบ ของนางสุกัญญาอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นน้องชายของสามเณรซึ่งบวชอยู่ที่วัดเดียวกัน ว่าจะยังให้เป็นสามเณรจำพรรษาที่วัดดังกล่าวต่อหรือไม่หรือจะกลับไปอยู่กับพ่อหรือแม่ แต่หากทั้งสองคนไม่พร้อมดูแลก็อาจจะรับไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม