จากกรณีนางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ อายุ 60 ปี ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุรีรัมย์ เข้าจับกุมบริเวณตลาดนัดคลองถมสี่แยกกระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ ในข้อหาจำหน่ายเหล้าสาโท โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกค่าปรับสูงถึง 5 หมื่นบาท โดยมีการต่อรองค่าปรับลดลงเหลือ3 หมื่นบาทและลดลงเหลือแค่ 1 หมื่นบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว
ล่าสุด กรมสรรพสามิต ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า ‘คุณยายตามที่ระบุในข่าวมีอาชีพขายข้าวหมากเป็นอาชีพหลัก ซึ่งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตได้รับแจ้งจากราษฎรว่า มีการจำหน่ายสุราแช่เพื่อดื่มกินที่ตลาดคลองถม สี่แยกไฟแดง ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและพบคุณยายดังกล่าวมีสุราแช่บรรจุถุงพลาสติกขนาดถุงละ 1 ลิตร จำนวน 11 ถุง รวม 11 ลิตร จึงมีการจับกุมคุณยายพร้อมของกลางที่เป็นสุรา มิได้มีการจับกุมข้าวหมากดังที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และข้าวหมากมิใช่สินค้าในพิกัดสินค้าสรรพสามิต
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหามีไว้ครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรค 1 มีโทษตาม ม. 192 เป็นเงินค่าปรับจำนวน 1 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมสรรพสามิตได้มอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมาโดยตลอดว่า ให้เข้าไปให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่ชาวบ้านเพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจถึงการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี ประเด็นข่าวดังกล่าวน่าจะมีเจตนาที่ไม่ดีเพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการและรัฐบาลได้รับความเสียหายในด้านลบ
ด้านนาย ณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี รองโฆษกกรมสรรพสามิต ยืนยัน ว่าเจ้าหนน้าที่ไม่ได้ปรับโหด แต่เป็นการปรับตามข้อกำหนดบทลงโทษของสรรพสามิต ยายเสน่ห์มีสาโทเกิน 10 ลิตร ไว้ครอบครอง ไม่ได้กลั่นแกล้ง ทำตามกฎหมาย
+ อ่านเพิ่มเติม