สาวสหรัฐฯ รู้ซึ้งคุณค่าชีวิตหลังยิงตัวตายแต่รอด ก่อนปลูกถ่ายใบหน้าใหม่สำเร็จ

สำนักข่าว metro นำเสนอเรื่องราวของ เคธี่ สตับเบิลฟิลด์ หญิงสาวชาวสหรัฐฯ อายุ 22 ปี ผู้รอดชีวิตหลังพยายามยิงตัวตายจนเสียโฉม ตอนอายุ 18 ปี แต่ล่าสุดเธอได้รับการปลูกถ่ายใบหน้าใหม่และได้โอกาสครั้งที่ 2 ในการมีชีวิตอยู่

ภาพความเปลี่ยนแปลงจาการปลูกถ่ายใบหน้าและบทสัมภาษณ์เปิดใจถูกเผยแพร่ลงในนิตยสารดัง National Geographic ฉบับเดือนกันยายนนี้ โดยบางช่วงระบุว่า เคธี่พยายามจะจบชีวิตตัวเองลงด้วยการใช้ปืนยิงตัวตายเมื่อเดือน มี.ค. 2014  ซึ่งตอนนั้นแพทย์ยังคิดว่าเธออาจจะไม่รอดชีวิตจากอาการบาดเจ็บสาหัส

หลังเข้ารับการผ่าตัดมากถึง 22 ครั้ง และการผ่าตัดครั้งสุดท้ายประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี เธอจึงตัดสินใจออกมาแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนอื่น โดยเฉพาะคนที่กำลังมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย เพราะตอนนี้เธอรู้ซึ้งถึงคำว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่าและสวยงาม”

สำหรับใบหน้าใหม่ของเคธี่ได้รับการบริจาคจากครอบครัวของ แอนเดรีย ชไนเดอร์ คุณแม่ลูกหนึ่ง อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด ซึ่งอวัยวะภายในของหญิงสาวสามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 7 ราย โดยยังเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้ปลูกถ่ายใบหน้าของเคธี่ ได้แก่ หน้าผาก , เปลือกตา, เบ้าตา , จมูก , ปาก , ริมฝีปาก , แก้ม , กรามบน และฟัน

ทั้งนี้เคธี่เป็นคนที่ 40 ของโลกที่ได้รับการปลูกถ่ายใบหน้า ซึ่งการผ่าตัดกินเวลายาวนานกว่า 31 ชั่วโมง ใช้ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากถึง 11 คน และยังนำเทคโนโลยีเสมือนจริงและการพิมพ์แบบสามมิติมาช่วยอีกด้วย