'ปวีณา' ลง สภ.เมืองหนองบัวลำภู คดีน้องน้ำหวาน เสียชีวิตปริศนา ด้านผบ.ตร.สั่งเร่งคลี่คลายคดี

10,665 ครั้ง

06 ส.ค. 2561

แชร์ข่าวไปที่

พ่อแม่ร้องเรียนมูลนิธิปวีณา กรณีนางสาววรรณวิสา สำราญ หรือน้องน้ำหวาน ชาว จ.หนองบัวลำภู วัย 21 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ชั้นปีที่ 4 เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ หลังชายหนุ่มชื่อเอ็ม ที่เพื่อนสาวทอมเพิ่งพามารู้จักกันที่สถานบันเทิงในคืนวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้อาสาขับรถไปส่งบ้าน โดยไม่มีเพื่อนคนอื่นไปด้วย จากนั้นประมาณ 1 ชม. ญาติน้องน้ำหวานทราบว่าเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เนื่องจากรถเก๋งที่นั่งมาด้วยเกิดเสียหลักชนต้นไม้ นั้น

ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค. 61) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นายไพโรจน์ สำราญ อายุ 43 ปี และนางสาวหนูกรรณ์ บุญน้อม อายุ 48 ปี พ่อ-แม่ของ น้องน้ำหวาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล หลังครอบครัวไม่เชื่อว่าน้องน้ำหวานเสียชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากรถเก๋งที่นั่งมาด้วยเกิดเสียหลักชนต้นไม้ ที่ จังหวัดหนองบัวลำภู และเชื่อว่าลูกสาวอาจถูกฆาตกรรมอำพราง

ข่าวอัพเดท : ปวีณา ลง สภ.เมืองหนองบัวลำภู คดีน้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกได้แจ้งข้อกล่าวหา นายพลสันต์ รัตนพลที อายุ 38 ปี คนขับรถที่เกิดอุบัติเหตุ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ไว้ก่อนและรอผลชันสูตรจากโรงพยาบาลตำรวจ โดยจะใช้เวลา 45 วันจึงจะรู้ผล

ทางด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณี ว่าเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนตามพฤติการณ์ที่ได้รับแจ้งเหตุในคดีดังกล่าว โดยแบ่งสำนวนการสอบสวนออกเป็น 2 สำนวน คือ 1.สำนวนอุบัติเหตุคดีจราจร ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.สำนวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอด มีสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปากรวมถึงการรวบรวมข้อมูลทางการสืบสวนเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดและอื่นๆ โดยหากมีพยานหลักฐานอื่นใดซึ่งเชื่อได้ว่าการเสียชีวิตของผู้ตายนั้น มีผู้ใดทำให้ตาย พนักงานสอบสวนก็ดำเนินคดีกับผู้นั้นตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยพนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ ชันสูตรหาพยานหลักฐานจากศพผู้ตายจากแผนกนิติเวชโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีและโรงพยาบาลตำรวจมาประกอบการสอบสวนดำเนินคดี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายอย่างแท้จริง

รองโฆษกตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว กำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและต้องสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติแก่พนักงานสอบสวน ดำเนินการบูรณาการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อถือได้

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม มติชนออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์ข่าวไปที่