ตำรวจออกหมายเรียกน้องชายนายโก้ให้มาพบแล้ว ส่วนนายโก้ยังไม่ยืนยันว่าหลบหนีอยู่ในไทยหรือประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามตัวนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ธิติมา เชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ อายุ 39 ปี โดยการใช้ไม้เบสบอลตีจนเสียชีวิตนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้ต้องหา ซึ่งไม่ยืนยันว่าล่าสุดผู้ต้องหา อยู่ในประเทศไทยหรือประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากพบข้อมูลว่า มีการใช้ช่องทางธรรมชาติในการเข้าออกประเทศ ส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุฆ่านางสาวธิติมาหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายเรียกให้น้องชายของผู้ต้องหาเข้าให้ปากคำแล้วโดยให้เข้าพบทันที พร้อมยืนยันว่า จะสามารถติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ภายใน 7 วัน
ขณะที่จากการสอบปากคำ อดีตภรรยา ให้การว่านายโก้พูดคุยเหมือนสั่งลา ซึ่งก็เกรงว่านายโก้ จะคิดสั้นทำร้ายตัวเอง ส่วนเงินที่นายโก้ โอนให้อดีตภรรยา หลังก่อเหตุ หากพบว่าอดีตภรรยากดออกไปใช้ ก็จะถือว่ามีความผิดด้วย
จากการพูดคุยกับอดีตพ่อตา นายโก้ ทราบว่า นายโก้คบหากับลูกสาวมา 7-8 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือถามรายละเอียดเรื่องครอบครัวกับลูกสาวแต่ขอให้ลูกสาวตัดสินใจเอง แต่ยอมรับว่ามีปากเสียงกันบ่อย
อย่างไรก็ตามหลังเลิกรากับนายโก้ได้ปีกว่า นายโก้ส่งเสียลูกตลอด จนเมื่อเดือน ก.ค. ไม่สามารถติดต่อได้ ยืนยันเงินที่เป็นข่าว 2 ล้านกว่าบาทนายโก้ไม่ได้นำมาให้เป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูลูกแน่นอน ยังมีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้นายโก้นำรถฟอร์ดของนางสาวธิติมา ไปให้อดีตภรรยาใช้ ซึ่งทำให้นางสาวธิติมาไม่พอใจ
ขณะเดียวกัน นายพิพัฒน์ และนายบัณฑิต ตั้งวิบูลย์พานิชย์ น้องชายของผู้ตาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อนำหลักฐานมามอบให้เพิ่มเติมเป็นข้อความแชทผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เนื่องจากเชื่อว่า การก่อเหตุฆ่าพี่สาว น่าจะทำเป็นขบวนการ พร้อมให้ตรวจสอบว่ามีความเคลื่อนไหวทางบัญชีของผู้ตายหรือไม่ เนื้องจากทราบว่ามีการโอนเงินจากบริษัทจำนวนหนึ่ง เข้าบัญชีนายโก้หลายครั้ง รวมหลายแสนบาท
+ อ่านเพิ่มเติม