คุมตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้งสอบปากคำ ยังปฏิเสธอ้างฝ่ายหญิงสมยอม
logo ข่าวอัพเดท

คุมตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้งสอบปากคำ ยังปฏิเสธอ้างฝ่ายหญิงสมยอม

ข่าวอัพเดท : ตำรวจ ปคม. คุมตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้งวัย 22 ปี เข้าสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธโดยอ้างว่าผู้หญิงสมยอม ขณะที่ตำรวจยืนยันมี ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์,อดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้ง,คุมตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้งสอบปากคำ

6,220 ครั้ง
|
27 ก.ค. 2561
ตำรวจ ปคม. คุมตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้งวัย 22 ปี เข้าสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธโดยอ้างว่าผู้หญิงสมยอม ขณะที่ตำรวจยืนยันมีพยานหลักฐานชัดเจนเอาผิดได้
 
ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. คุมตัวนายนพดล นวอริยะ อายุ 42 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ในข้อหาข่มขืนสาวม้ง อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดลำปาง มายังกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อสอบปากคำ กรณีตกเป็นผู้ต้องหา ข่มขืนสาวม้งและถ่ายภาพไว้จนหญิงสาวอับอายกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตาย
 
โดยหญิงสาวถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว เมื่อคืนวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมาหลังตำรวจภูธรจังหวัดตาก และตำรวจ ปคม. จับกุมนายนพดล ได้ในที่พื้นที่จังหวัดตาก ก่อนจะนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักในเขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก 
 
โดยนายนพดล ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและรู้จักกับสาวม้งคนดังกล่าวจริง อ้างว่ารู้จักฝ่ายหญิงผ่านเฟซบุ๊ก นาน 20 วัน ก่อนที่จะนัดเจอกับหญิงสาวที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปางเพื่อนำยาสมุนไพรให้ที่จังหวัดลำปาง จากนั้นพากันเข้าโรงแรมและมีเพศสัมพันธ์กัน โดยที่ฝ่ายหญิงยินยอม ซึ่งระหว่างที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม มีชายคนหนึ่งทักข้อความในแชทของฝ่ายหญิงมา จึงถ่ายภาพที่อยู่ด้วยกันในโรงแรมส่งกลับไปเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะลงไปทานข้าว และซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้หญิงสาวทาน เช้าวันรุ่งขึ้นได้ไปส่งหญิงสาวที่บ้าน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าฝ่ายหญิงกินยาฆ่าตัวตาย พร้อมขอโทษครอบครัวหญิงสาว ไม่ได้ตั้งใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
 
ด้าน พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจ ปคม. ยืนยันว่า แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน โดยคำให้การของหญิงสาวก่อนเสียชีวิตที่บันทึกภาพไว้ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่มีน้ำหนักเพียงพอ พร้อมยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่เข้ามอบตัวแต่ตำรวจจับกุม และยังพบว่าผู้ต้องหามีความพยายามที่จะหลบหนีโดยมีการทำลายเสื้อที่ใส่ในวันเกิดเหตุ รวมถึงโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และมีการเตรียมความพร้อมในการหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากการสอบสวนยังพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนจนทำให้ถูกปลดจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน