'ชูวิทย์' โพสต์เฟซบุ๊ค ซัดรัฐ-กบฏ โฆษณาชวนเชื่อผ่านโซเชียล ล้างสมองมวลชน เตือนคนไทยอย่าตกเป็นเครื่องมือ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความบน เฟซบุ๊ค ชูวิทย์ I'm No.5 ว่า
โฆษณาชวนเชื่อ Propaganda
รัฐบาลต่อสู้กับกบฏ ต้องมีการแย่งชิงมวลชนมาเป็นพวก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ "โฆษณาชวนเชื่อ" เพื่อให้อำนาจของแต่ละฝ่ายดูน่าเชื่อถือ สมัยก่อนใช้ใบปลิว วิทยุกระจายเสียง จนปัจจุบันใช้โฆษณาชวนเชื่อผ่านสังคมออนไลน์ ทั้งรัฐ ทั้งกบฏ ตอบโต้กัน "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"
การโฆษณาชวนเชื่อเป็นการกระจายข่าวสาร เป่าหู โจมตีตัวบุคคล ตั้งสมญานาม พูดจาซ้ำๆ จำกัดข้อมูลเพียงด้านเดียว แบ่งแยกฝ่ายชัดเจน มักอ้างอิงถึงคุณธรรมของแต่ละฝ่าย ผลักไสผู้ที่ไม่ใช่พวกของตนออกไปเป็นฝ่ายชั่วร้าย เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Propaganda
การใช้โฆษณาชวนเชื่อ เพื่อล้างสมองมวลชนที่มีจิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ ปรารถนาเห็นประเทศชาติบ้านเมืองก้าวหน้ามั่นคง มักใช้ผ่านตัวแทนไม่ว่าเด็ก วีรบุรุษ พระสงฆ์องค์เจ้า หรือคนกลางที่ดูน่าเชื่อถือของสังคม แม้แต่นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัคราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ล้วนตกเป็นเครื่องมือในการสร้างและทำลายของกระบวนการนี้
ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรับผลัดกันรุก เคยเป็นรัฐบาลกันมาแล้วทั้งคู่ เชี่ยวชาญเกมส์การเมือง รู้จักกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อเป็นอย่างดี สร้างความแตกแยกร้าวฉานไม่รู้จุดจบให้กับประชาชน ที่ต้องถูกล้างสมองโดยไม่รู้ตัว ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม
มีการใช้โฆษณาชวนเชื่อผ่านสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการโพสต์ คอมเมนท์ เฟสบุ๊คที่ไม่มีตัวตน IGดารานักแสดง บางคำพูดถูกตัดมาใช้เป็นประโยชน์ ประชาชนต้องระวังอย่างยิ่ง อย่าตกเป็นเหยื่อ
หลักการสำคัญของการโฆษณาชวนเชื่อคือ อย่าให้ถูกจับได้แม้แต่ครั้งเดียว จะถือว่าล้มเหลว ไม่สามารถโฆษณาชวนเชื่อได้อีก ต่างฝ่ายจึงไม่ยอมรับว่ากำลังโฆษณาชวนเชื่ออยู่ เป็นที่มาของคำว่า "แถ" ในอินเตอร์เน็ต
ประชาชนคนไทย "โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม" เหมือนดูหนังผี ควรมีเรตติ้งกำกับ โดยเฉพาะช่วงนี้ออกฉายตอน 2 ทุ่มทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ถึงขนาดมีช่องของตัวเองเปิดให้ดูทั้งวันทั้งคืน ประชาชนตั้งแต่เด็กยันแก่ติดกันงอมแงม
เข้าทำนองสำนวนไทยที่ว่า "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด" เดี๋ยวนี้เลย "สะเออะ" มีแต่คน "กระแดะ"