ยูเอ็นเผยตัวเลขความเสียหายเขื่อนพังถล่มที่สปป.ลาว ยังคงสูญหาย131 คน
logo ข่าวอัพเดท

ยูเอ็นเผยตัวเลขความเสียหายเขื่อนพังถล่มที่สปป.ลาว ยังคงสูญหาย131 คน

ข่าวอัพเดท : องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ประเมินตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพราะเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกว่า มีมากกว่า 1 หมื่นคน ขณ องค์การสหประชาชาติ,ประเทศลาว,ลาวเขื่นแตก,เปิดตัวเลข,เขื่อนเซเปียน

1,529 ครั้ง
|
26 ก.ค. 2561
องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ประเมินตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพราะเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกว่า มีมากกว่า 1 หมื่นคน ขณะที่ทางการระบุตัวเลขผู้สูญหายอยู่ที่ 131 คน
 
สถานการณ์น้ำท่วมในเมืองสนามชัย แขวงอัตตะปือของสปป.ลาวยังน่าวิตก โดยระดับน้ำยังคงท่วมสูงเกือบมิดหลังคา พื้นที่หมู่บ้าน 7 แห่งจมอยู่ใต้น้ำ ถนนหนทางถูกตัดขาด ผู้ประสบภัยส่วนหนึ่งยังคงรอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยบนหลังคาบ้านของตน ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่พยายามหาทางอพยพผู้คนออกมา
 
 สำนักงานประสานงานด้านที่อยู่อาศัยของยูเอ็นรายงานว่า มีชาวลาวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพราะเหตุเขื่อนแตกครั้งนี้มากถึง 11,700 คน มากกว่า 6,000 ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เนื่องจากมวลน้ำมากถึง 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเทียบเท่าสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิกถึง 2 ล้านสระ ได้ทำลายบ้านเรือนย่อยยับ 
 
ด้านนายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิตของลาวออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของทางการเปิดเผยยอดผู้สูญหายว่าอยู่ที่ 131 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งค้นหาอย่างเต็มที่ โดยผู้นำลาวได้ยกเลิกการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำเดือน เพื่อเฝ้าติดตามและลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ แจกสิ่งของบรรเทาสาธารณภัย ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า พบศพผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 26 ราย พร้อมคาดการณ์ว่าระดับน้ำน่าจะลดลงในอีก 1 ถึง 2 วันข้างหน้า 
 
ด้านบริษัทไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด ของไทย ซึ่งมีส่วนในการก่อสร้างโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เผยต่อซีเอ็นเอ็นว่า เหตุเขื่อนแตกครั้งนี้เป็นผลจากพายุฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำมากเกินรับไหว ขณะที่ บริษัท เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ของเกาหลีใต้ ระบุว่า ได้เตือนทางการลาวให้อพยพประชาชนจากพื้นที่ตอนล่างเขื่อนถึงสองครั้ง หลังพบรอยร้าวที่เขื่อนเมื่อคืนวันอาทิตย์และความพยายามซ่อมแซมไม่ประสบผลสำเร็จ 
 
เหตุเขื่อนแตกจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบโครงการเขื่อนพลังงานน้ำทั่วประเทศลาวตามเป้าหมายการเป็นแหล่งพลังงานของเอเชีย หรือ แบตเตอร์รี่ ออฟ เอเชีย ของภาครัฐ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอย หลังในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุเขื่อนแตกสร้างความเสียหายแล้วถึง 3 ครั้ง รวมถึงใช้โอกาสนี้ ศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมด้วย 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานทูตลาวซึ้งใจ ชาวไทยยื่นความช่วยเหลือเหตุเขื่อนแตก ในฐานะมิตรประเทศใกล้ชิด (26 ก.ค. 61)