ภรรยาร่ำไห้ รับศพสามีกระโดดตึกศาลอาญา วอนขอความเป็นธรรม เสียทั้งลูกและสามี
logo ข่าวอัพเดท

ภรรยาร่ำไห้ รับศพสามีกระโดดตึกศาลอาญา วอนขอความเป็นธรรม เสียทั้งลูกและสามี

ข่าวอัพเดท : วันนี้ (24 ก.ค.) นางเรวดี คัฬหสุนทร ภรรยา พร้อมนางสาวปทุมมา เนตรเชวียง น้องสาว เข้ารับศพนายศุภชัย คัฬหสุนทร ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรว โดดตึกศาลอาญา,โดดตึกฆ่าตัวตาย,รับศพสามีกระโดดตึกศาลอาญา

7,774 ครั้ง
|
24 ก.ค. 2561
วันนี้ (24 ก.ค.) นางเรวดี คัฬหสุนทร ภรรยา พร้อมนางสาวปทุมมา เนตรเชวียง น้องสาว เข้ารับศพนายศุภชัย คัฬหสุนทร ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ หลังกระโดดลงมาจากชั้น 8 ศาลอาญารัชดา จนเสียชีวิตเมื่อวานนี้ เนื่องจากเกิดความเครียดและผิดหวังหลังศาลฯ ยกฟ้องคดีที่นายธนิต คัฬหสุนทร ลูกชาย ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559
 
นางเรวดี กล่าวทั้งน้ำตา ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะก่อนเดินทางไปฟังคำพิพากษา สามียังอารมณ์ดีร่าเริงปกติ โดยไม่คิดว่าศาลจะยกฟ้อง อีกทั้งไม่มีลางร้ายบอกเหตุ จนกระทั่งสิ้นคำพิพากษาคิดว่าสามีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นตนเองคิดจะกระโดดฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่มีคนมาดึงไว้ทัน จนกระทั่งมารู้อีกทีว่าสามีคิดสั้นกระโดดตึกลงมาแล้ว
 
หลังจากนี้แนวทางการต่อสู้คดี ยืนยันจะอุทธรณ์ และฎีกา ทั้งสองศาล โดยขอขอบคุณผู้มีอำนาจที่สั่งให้มีการรวบรวมหลักฐานขึ้นมาใหม่เพื่อตรวจสอบว่าคดีมีความบกพร่องมากน้อยเพียงใด เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ครอบครัวหาหลักฐานเพียงฝ่ายเดียว ถึงขั้นสามีลาออกจากงานประจำเพื่อติดตามคดีและหาหลักฐาน จนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนไม่กล้ามาเป็นพยานยืนยันว่าใครเป็นคนร้ายที่แท้จริง
 
นอกจากนี้พยานหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดไม่สามารถนำมาใช้ในการหักล้างกับคู่กรณีได้ เนื่องจากมีกล้องบางตัวในจุดใหล้ที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานอ้างว่า ไม่สามารถใช้การได้ แต่ยืนยันว่าหากตำรวจมีความพยายามในการหาหลักฐานเชื่อว่าจะนำคนผิดมาลงโทษได้ เพราะบางคดีศพถูกเผายังหาคนร้ายมาลงโทษได้ 
 
อย่างไรก็ตาม วอนขอความเป็นธรรมกับผู้มีอำนาจ เนื่องจากครอบครัวต้องสูญเสียทั้งสามีและบุตร หากถึงที่สุดแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมตนเองก็มีสิทธิ์ที่จะคิดสั้น แม้คนอื่นจะมองว่าเป็นคนโง่ก็ตาม