กรมทรัพยากรธรณียืนยันใช้วิธีส่องกล้องเพื่อเจาะขยายโพร่งถ้ำและเซาะขยายทางแคบ เพดานถ้ำให้กว้าง เพื่อเปิดทางให้หน่วยซีลค้นหาทั้ง 13 ชีวิตได้เร็วขึ้น ขณะที่มีกำหนดการยืนยันแล้วว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปบริเวณถ้ำหลวงด่วนเช้าวันพรุ่งนี้
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันกำหนดการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะเดินทางไปยังบริเวณถ้ำหลวง จ.เชียงราย เพื่อติดตามภารกิจช่วย 13 ชีวิต ที่ติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน โดยจะเดินทางออกจากสนามบินทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เวลา 07.00 น. และมีกำหนดการเดินทางกลับถึง กทม. ในเวลาประมาณ 14.20 น.
ด้านความคืบหน้าการค้นหาทั้ง 13 ชีวิตในถ้ำหลวง หลังจากทีมนักธรณีวิทยาได้ร่วมกันวิเคราะห์ธรณีสัณฐานของถ้ำ นายทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ระดับความหนาของชั้นหินปูนของถ้ำเขาหลวงมีตั้งแต่ 100-200 เมตร ซึ่งในทางเทคนิค บริษัทเอกชนที่ทำเหมืองแร่สามารถขุดเจาะได้ ในจุดที่คาดว่าใกล้กับพัทยาบีช คือกลางถ้ำ โดยการเจาะครั้งนี้จะแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 3 กลุ่ม คือ เจาะทางปากถ้ำ กลางถ้ำ และปลายถ้ำ ส่วนการขยายผนังและเพดานถ้ำด้านใน ซึ่งเป็นแผนใหม่ที่มีความแคบและน้ำท่วมถึงเพดานถ้ำ จนทำให้หน่วยซีลไม่สามารถเข้าถึงโถงถ้ำในจุดต่อไป หรือจุดที่ลึกกว่านั้นได้ เบื้องต้น ประเมินว่า ต้องเซาะเพดานถ้ำหรือขยายให้กว้างประมาณ 100 เมตร ให้มีเพดานกว้างขึ้น
ทั้งนี้คาดหมายว่า จุดที่จะกำหนดเซาะ เจาะเพื่อขยายเพดานถ้ำ เป็นบริเวณเส้นทางเดิมที่หน่วยซีลปฏิบัติงานอยู่ เพื่อขยายพื้นที่ระหว่างเพดานถ้ำกับพื้นผิวน้ำให้มีช่องว่างเพิ่มขึ้น ให้มีอากาศหายใจ และติดตั้งเชือกเพื่อเข้าไปในถ้ำด้วย ซึ่งโอกาสเสี่ยงถ้ำถล่มน้อยมาก เพราะได้สำรวจแล้วพบว่าเป็นหินปูน เจาะง่าย
+ อ่านเพิ่มเติม