ร.10 ทรงห่วง 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง รับสั่งให้จัดระบบทำงานช่วยเหลือให้เรียบร้อย

3,991 ครั้ง

27 มิ.ย. 2561

แชร์ข่าวไปที่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งจัดระบบการทำงานช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงให้เรียบร้อย กันคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป เชื่อทุกคนยังปลอดภัยและวันนี้จะมีข่าวดี

(คลิปข่าวจากรายการ 27 มิ.ย. 61)

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยระบุถึงข่าวจากราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่แจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามการช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่สูญหายในถ้ำหลวง-เขานางนอน จังหวัดเชียงราย และมีพระราชกระแสรับสั่งให้จัดระบบในการทำงาน โดยเฉพาะคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนปฏิบัติการให้รอให้กำลังใจอยู่ด้านนอกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกมากขึ้น

พลเอกอนุพงษ์ระบุต่อไปว่า ความคืบหน้าการช่วยเหลือตลอดทั้งคืนทุกฝ่ายยังคงทำงานต่อเนื่องและต้องแข่งกับเวลา ซึ่งแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน คือการสูบน้ำออกจากถ้ำ แต่อุปสรรคคือน้ำในถ้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจากฝนที่ตกหนัก และอีกส่วนคือหน่วยซีล ยังคงดำน้ำเพื่อหาช่องทางเข้าไปด้านในให้ได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้มีแผนและตั้งเป้าว่าจะดำเข้าไปเป็นระยะ โดยใช้เชือกวางเป็นแนวนำทาง ให้ชุดต่อไปได้เข้าไปผลัดเปลี่ยน และเข้าถึงตัวเด็กให้เร็วที่สุด ส่วนเมื่อพบแล้วจะนำตัวทั้งหมดออกมาอย่างไร จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

ขณะเดียวกันชุดปฏิบัติการด้านนอก ได้เตรียมความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่โรยตัวเข้าไปในปล่องที่ค้นพบเมื่อวาน แต่อุปสรรคคือเมฆหมอกที่ยังปกคลุม จึงต้องใช้ชุดเดินเท้าเข้าไปในป่าให้มากที่สุด เพราะจากการตรวจสอบ พบว่าภายในถ้ำมีอากาศหมุนเวียนถ่ายเทตลอด จึงเป็นไปได้ว่าจะทางเข้าไปในถ้ำช่องทางอื่นอีก

ส่วนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ทุกภาคส่วนรวมสรรพกำลังเพื่อเร่งสูบน้ำออก รวมถึง กทม.ที่ส่งไปช่วยเพิ่มเติมเมื่อคืนนี้ จะพร่องน้ำด้านนอก ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากปากถ้ำแคบ ขณะที่เครื่องสูบน้ำในถ้ำจะเป็นเครื่องไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งเมื่อวานเจ้าหน้าที่เดินสายไฟเข้าไป เพื่อให้เครื่องทำงานได้จึงทำให้เสียเวลา แต่วันนี้ทุกอย่างน่าจะราบรื่นและเดินหน้าได้

อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพร้อมรับทุกข้อเสนอ ทุกคนทุกฝ่ายในการหาแนวทางช่วยเหลือ และเชื่อว่าวันนี้จะได้รับข่าวดีตามที่ทุกคนตั้งความหวังไว้ว่าทุกคนจะปลอดภัยออกมา ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าทุกคนจะสามารถเอาชีวิตรอดได้เพราะเป็นนักกีฬา และเคยเข้าไปในถ้ำนั้นมาก่อนแล้ว พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ปฏิบัติงานและนำเสนอข่าว ควรคำนึงและไต่ตรองความถูกต้องความรู้สึกครอบครัวผู้สูญหาย โดยเฉพาะการใช้คำถามที่สร้างสรรค์ ไม่ทำลายความรู้สึกคนอื่น และสิ่งสำคัญต้องไม่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่

แชร์ข่าวไปที่

เด็กติดในถ้ำ

เด็กติดถ้ำหลวง

เด็กหายในถ้ำ

ทีมฟุตบอลติดในถ้ำ

หมูป่าอคาเดมี่