ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ขอความร่วมมือ ประชาชน งดจุดธูป-เทียน บริเวณปากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ห่วงควันเข้าถ้ำ ส่งผลให้อากาศภายในน้อยลง รายงานล่าสุดยังไม่พบ 13 ชีวิต ให้คำมั่นเจ้าหน้าที่ระดมกำลัง เร่งค้นหาให้พบโดยเร็ว
พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กล่าวถึงการค้นหาทีมฟุตบอลเด็ก พร้อมโค้ช รวม 13 คน ที่หายเข้าไปภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า ทั้งหมดเดินเข้าไปลึก ประกอบกับเกิดฝนตก จึงทำให้น้ำท่วมปิดทางเข้าออก ในช่วงแรกได้ใช้ทีมประดาน้ำของกู้ภัยเข้าไปค้นหาแต่ไม่ชำนาญ และมีน้ำขุ่น จึงให้ทีมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ หน่วยซีล เข้ามาเสริม ขณะนี้มีการตั้งกองอำนวยนวยการร่วม โดยมีทุกภาคส่วนร่วมบูรณากาคทำงาน ประกอบด้วยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย( กกล รส.) เชียงราย กกล.รส.มทบ 37 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)เชียงราย มูลนิธิ หน่วยกู้ภัยต่างๆ สันนิษฐานว่า เด็กๆรู้วิธีเอาตัวรอดจากน้ำท่วมได้ เพราะมีบางคนเคยเข้าไปเที่ยวในถ้ำแล้ว มีประสบการณ์การเอาตัวรอดจากน้ำท่วม ซึ่งถ้ำหลวงฯ มีความยาว 7 กม. ภายในมีเนิน คล้ายสันดอน ที่สูงกว่าระดับน้ำในถ้ำ
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามดำน้ำเอาดินโคลนออก เพื่อเปิดปากถ้ำให้กว้าง นอกจากนี้ยังส่งเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งขึ้นไปบนภูเขา เพื่ออุดน้ำที่จะไหลมาเติมภายในถ้ำ แต่ฝนก็ยังตกต่อเนื่องบนเทือกเขารอยต่อไทย-เมียนมา
ผบ.มทบ.37 กล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่พยายามดูแลคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติงาน และอยากขอความร่วมมืองดจุดธูปเทียนใกล้พื้นที่ เพราะจะทำให้เกิดควัน ลอยเข้าไปในถ้ำ ส่งผลให้อากาศ หรือ ออกซิเจน ในถ้ำน้อยลง อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้นำเครื่องเติมอากาศของปภ. เข้าไปในถ้ำเพื่อเติมอากาศให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใน และยังจัดตั้งหน่วยแพทย์ โดยเป็นความร่วมมือ ระหว่าง รพ.เชียงราย กับ รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช นอกจากนี้ยังชุดครัวสนาม สำหรับประกอบอาหารแก่เจ้าหน้าที่และครอบครัวทั้ง 13 ชีวิต รวมถึงวางระบบการสื่อสารทางทหาร เนื่องจากในพื้นที่จะติดต่อลำบาก
โดยขณะนี้ยังไม่พบทั้ง 13 คน แต่ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง และให้คำมั่นว่า เจ้าหน้าที่ทุกนายจะพยายามค้นพาเด็กๆและโค้ชให้เจอโดนเร็วที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม