ผู้ว่าฯ พังงาแจงความเสียหายเหตุฝนตกหนักคลื่นลมแรงทำความเสียหายทั่วทั้งจังหวัดพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย 7 ตำบล 46 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,572 คน
นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา แจ้งสถานการณ์ฝนตกหนักและลมพัดแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้เกิดน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งและเกิดวาตภัยขึ้นในหลายพื้นที่ ดังนี้
น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง พื้นที่อำเภอตะกั่วป่า ประกอบด้วย 2 ตำบล คือ ต.คึกคัก หมู่ที่ 5,6 และ 7 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 10 ครัวเรือน และ ต.เกาะคอเขา หมู่ที่ 3 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5 ครัวเรือน
วาตภัย พื้นที่ 6 อำเภอ คือ
1.) อ.ตะกั่วป่า ประกอบด้วย 1 ตำบล ได้แก่ ต.เกาะคอเขา หมู่ที่ 2 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8 หลังคาเรือน 24 คน สายไฟฟ้าขาดจำนวน 2 แห่ง และต้นไม้ล้มขวางทางสัญจรจำนวน 2 จุด การให้ความช่วยเหลือ อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
2.) อ.เกาะยาว ประกอบด้วย 3 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 750 ครัวเรือน จำนวน 250 คน ประมาณการงบประมาณความเสียหายเบื้องต้น จำนวน 1,200,000 บาท, ต.เกาะยาวน้อย หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6 และ 7 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน, ต.พรุใน หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6 และ 7 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน, ต.เกาะยาวใหญ่ หมู่ที่ 2 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน เรือประมงพื้นบ้านจมน้ำได้รับความเสียหาย จำนวน 10 ลำ การบรรเทาภัยและการให้ความช่วยเหลือ อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ทำการตัดต้นไม้ที่ล้มทับบ้านเรือนประชาชนและกีดขวางถนน พร้อมทั้งสำรวจความเสียหาย เพื่อทำการช่วยเหลือต่อไป
3.) อ.คุระบุรี ประกอบด้วย 3 ตำบล 18 หมู่บ้านประชาชนได้รับความเดือดร้อน 58 หลังคาเรือน 176 คน ต.บางวัน หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7,8 และ 9 บ้านพักอาศัยพังเสียหายบางส่วน 48 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 149 คน, ต.เกาะพระทอง 1,2,3 และ 4 บ้านพักอาศัยพังเสียหายบางส่วน 5 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12 คน และถังน้ำประปาของโรงเรียนเกียรติประชา ได้รับความเสียหาย 1 ถัง, ต.คุระ หมู่ที่ 3,5,6,10 และ 11 บ้านพักอาศัยพังเสียหายบางส่วน 5 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 15 คน การบรรเทาภัยและการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น อ.คุระบุรี กองร้อย ตชด.ที่ 425 ตะกั่วป่า และ อบต.บางวัน ได้ตรวจสอบพื้นที่และให้ความช่วยเหลือ เป็นกระเบื้องมุงหลังคา จำนวน 1,500 แผ่น และ อบต.คุระได้ช่วยเหลือกระเบื้องมุงหลังคา จำนวน 147 แผ่น
4.) อ.ตะกั่วทุ่ง ประกอบด้วย 7 ตำบล 46 หมู่บ้าน 310 ครัวเรือน ราษฎรได้รับ ความเดือดร้อน 1,572 คนดังนี้ ต.ถ้ำ หมู่ที่ 2,5,7 และ 9, ต.ท่าอยู่ หมู่ที่ 1,2,3,5 และ 6, ต.กะไหล หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9 และ 10, ต.โคกกลอย หมู่ที่ 2,5,7,8,9,11 และ 14, ต.หล่อยูง หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9 และ 10, ต.คลองเคียน หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7 และ 8, ต.กระโสม หมู่ที่ 4 และ 5
5.) อ.ทับปุด ประกอบด้วย 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4 ครัวเรือน 21 คน และเสียชีวิต 1 ราย ต.มะรุ่ย หมู่ที่ 4 บ้านพักอาศัยพังบางส่วน 1 หลังคาเรือน, ต.ทับปุด หมู่ที่ 1 บ้านพักอาศัยพังบางส่วน 1 หลังคาเรือน, ต.บ่อแสน หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 7 บ้านพักอาศัยพังบางส่วน 2 หลังคาเรือน ทั้งนี้ อาคารสิ่งปลูกสร้าง ได้รับความเสียหาย ดังนี้ โรงฆ่าสัตว์ชั่วคราว จำนวน 1 หลัง โรงเรือนเลี้ยงโคขุน จำนวน 1 หลัง โรงเรือนเลี้ยงแม่พันธุ์โคขุน จำนวน 1 หลัง กรณีผู้เสียชีวิต ชื่อนางเหว สุขพัฒนศรีกุล ชาว อ.ทับปุด จ.พังงา สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากเกิดพายุพัดกิ่งไม้ลงมาทับสายไฟฟ้าขาดและหล่นลงพื้นบริเวณหน้าบ้านผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาผู้เสียชีวิตเดินมาเก็บเศษกิ่งไม้ที่หล่นบริเวณหน้าบ้านและบังเอิญไปสัมผัสกับสายไฟทำให้เกิดไฟฟ้าช๊อต ถูกนำส่งโรงพยาบาลทับปุด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
6.) อ.เมืองพังงา ประกอบด้วย 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8 ครัวเรือน 50 คน ประมาณการความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 100,000 บาท ต.ทุ่งคาโงก หมู่ที่ 2 และ 4 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน, ต.นบปริง หมู่ที่ 2,4 และ 8 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน, ต.บางเตย หมู่ที่ 3 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน, ต.สองแพรก หมู่ที่ 2 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน, ต.ป่ากอ หมู่ที่ 1 และ 3 บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วน พืชสวนปาล์มน้ำมันได้รับความเสียหาย จำนวน 1 ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ 2, ต.ทุ่งคาโงก การบรรเทาภัยและการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น อำเภอเมืองพังงาและท้องถิ่นได้ตรวจสอบพื้นที่และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ทางจังหวัดพังงาได้สั่งการและกำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา อำเภอทุกอำเภอ ส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง ประสานข้อมูล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสำรวจ ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนพื้นที่และรายงานจากสถานการณ์ฝนตกหนักและลมกรรโชกแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพังงา ตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2561 เป็นต้นมา