เป็นสัปดาห์ที่โครงการ "นมโรงเรียน" กลับสู่ความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากมีหนังสือที่ออกโดยโรงเรียนไผทอุดมศึกษาถึงผู้ปกครองนักเรียนของทางโรงเรียน ระบุว่านมโรงเรียนที่ได้รับมีความขุ่นข้นเปลี่ยนไปจากปกติ ซึ่งทำให้ทางโรงเรียนมีความกังวลอย่างมากต่อคุณภาพของนมในกล่องอื่นๆ ซึ่งิอาจมีผลเสียต่อสุขภาพของนักเรียน จึงของดการแจกนมโรงเรียนให้นักเรียนดื่มจนกว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนจากภาครัฐ
แม้จะยังไม่มีนักเรียนใดรายใดได้รับผลกระทบ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้ภาครัฐต้องรีบออกมาจัดการปัญหา ขณะผู้ผลิตนมโรงเรียนอย่างสหกรณ์โคนมไทยมิลค์ก็ต้องออกแถลงการณ์ขอโทษในเรื่องดังกล่าว พร้อมชี้แจงสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากกระบวนการซีลบรรจุภัณฑ์เกิดความไม่สมบูรณ์ และได้ทำการซ่อมแซมเครื่องบรรจุที่มีปัญหา พร้อมทั้งเรียกคืนนมในล็อตดังกล่าวกว่าแสนกล่องแล้ว แม้จะบอกว่ามีเพียงหลักสิบกล่องที่มีปัญหาก็ตาม
แต่กระแสสังคมเกิดขึ้นแล้ว และหนึ่งในคำถามที่สังคมมีต่อโครงการนี้ คือคุณภาพของนมโรงเรียนได้มาตรฐานจริงหรือไม่ และนมโรงเรียน ถือเป็นนมเกรดใด หากเทียบกับนมที่วางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด?
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมควร สว่างอารมณ์ จากสหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย ที่เดินทางมาให้กำลังใจผู้บริหารสหกรณ์โคนมไทยมิลค์ที่ตกเป็นข่าวและออกมาขอโทษต่อผู้เกี่ยวข้อง เขาระบุว่าตอนแรกที่ทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"อาจจะเป็นกระบวนการผลิตที่เป็นหนึ่งในล้าน คือมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่มันน้อยมากๆ ทุกอย่างมีการผิดพลาดเนอะ แต่ว่าโอกาสน้อยมาก ลองดูที่ผ่านมานมเสียจะไม่ค่อยมี เพราะทุกคนระมัดระวังมาก เหมือนไข่ในหินด้วยซ้ำ ตั้งแต่วัตถุดิบเข้ามา กระบวนการผลิต ไปถึงผู้บริโภค ก็คือลูกหลานเราทั้งนั้นแหละ"
นายสมควรบอกกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ทุกโรงงานอยู่ในขั้นระมัดระวังสูงสุดเท่าที่มี เช่น ห้ามใครผ่านเข้าออกโรงงานเด็ดขาด จนกว่าจะผ่านกระบวนการตามระบบ
"ต้องระวังให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้" เขาระบุ
เขายังยืนยันว่านมโรงเรียนมีคุณภาพสูงกว่านมทั่วไป เช่น ตามกฎหมายแล้วนมทั่วไปต้องมีไขมันร้อยละ 3.3 แต่นมโรงเรียนต้องมีมากกว่านั้น หรือตามกฎแล้วนมอาจจะมีของแข็งที่เป็นแร่ธาตุหรือสารอาหารไม่ถึงร้อยละ 12 แต่นมโรงเรียนมีมากถึงร้อยละ 12.25 เป็นต้น ซึ่งถือว่าสูงมาก
"ดังนั้นนมที่จะเข้ากระบวนการผลิตนมโรงเรียนต้องมีการคัดเลือกคุณภาพ โดยดูจากองค์ประกอบนมเป็นเกณฑ์ ทุกโรงงานเขาจะมีเครื่องตรวจ ดังนั้นนมที่จะผลิตนมโรงเรียนจะต้องเป็นนมเกรด A เท่านั้น"
เขายังยืนยันว่านมโรงเรียนไม่สามารถเติมสารแต่งเติมใดๆ ได้ แต่งสี แต่งกลิ่น เติมรสชาติใดๆ ไม่ได้เลย ต้องเป็นนม 100% เท่านั้น แต่ถ้าตรวจสอบเจอว่ามีสิ่งปลอมปนเติมเข้าไป โรงงานจะต้องถูกดำเนินคดีทันที
"ถ้าใครมีหลักฐานว่านมโรงเรียนมีการปลอมปน มีการเติมสารต่างๆ สามารถแจ้งไปที่คณะกรรมการนมโรงเรียนได้ทันที ปกติผู้ประกอบการไม่มีใครทำ เพราะทำแล้ว ... นมแค่หน่วยละไม่กี่บาท ถ้าไปเจอเนี่ย ธุรกิจเขาเป็นร้อยล้าน เขาไม่ทำอยู่แล้ว"
เขายืนยันว่านมโรงเรียนทุกแบรนด์ไม่ต่างกัน การแข่งขันจะอยู่ที่การบริการ เช่น การขนส่ง หรือแข่งกันที่องค์ประกอบที่สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้
"คนทำนมโรงเรียนได้กำไรไม่เยอะ แต่ลงทุนไปแล้วมันเปลี่ยนอาชีพไม่ได้ แล้วทุกคนต้องทำตามกฎเท่านั้น ไม่งั้นโดนตัดสิทธิทันที"
ทีมข่าวจึงถามว่า แล้วถ้าได้กำไรน้อย ทำไมถึงยังทำอยู่?
"การจะไปผลิตนมในเชิงพาณิชย์ต้องใช้เวลา แล้วต้องมีปริมาณมาก นมโรงเรียนเป็นอะไรที่ได้ยอดขายล่วงหน้า ช่วงนี้ทุกคนต้องรักษาตัวให้อยู่ได้ ถ้าเกิดไม่ได้ขายนมโรงเรียน ทุกอย่างคือจบ" นายสมควรกล่าวปิดท้าย
(ภาพประกอบจาก : https://schoolmilkthai.com/)