เมื่อเวลา 10.00 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้นำผู้เสียหายจากผลิตภัณฑ์ คาโอะ โดย ตรีชฎา เข้าพบ พล.ต.อ.ดร. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และโฆษก ตร. เพื่อร้องเรียนกรณีตกเป็นเหยื่อถูกหลอกให้เป็นสั่งจองเซรั่มหน้าเรียวเพื่อเป็นผู้แทนจำหน่าย
โดยผู้เสียหายได้ให้การต่อ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ว่าผลิตภัณฑ์ คาโอะ โดย ตรีชฎา มีการประโคมโฆษณาตามสื่อต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ เช่น รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง และว่าจ้างนางเอกสาว จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข เป็นพรีเซนเตอร์ โฆษณาสรรพคุณสินค้า อ้างว่ามีสารสกัดจากเยื่อไผ่ญี่ปุ่นและเห็ดญี่ปุ่น ที่ช่วยลดการเกิดแบคทีเรียใต้ชั้นผิวหนัง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า และทำให้หน้าเรียวเป็นวีเชพได้ อีกทั้งยังได้นำเสนอภาพถ่ายรีวิวผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทำให้พวกตนหลงเชื่อ จนเมื่อทางบริษัทประกาศเปิดรับสั่งจองผลิตภัณฑ์ คาโอะ ในราคาขายส่งเป็นจำนวน 5 ล้านซอง กลุ่มผู้เสียหายจึงติดต่อไปสั่งของผลิตภัณฑ์กับแม่ข่ายเพื่อนำมาจัดจำหน่ายต่อ โดยได้ชำระเงินค่าสินค้าล่วงหน้าไปตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2560 คนละ 30% เป็นจำนวนคนละหลายแสนบาทไปถึงกว่าหนึ่งล้านบาท
ผู้เสียหายยังบอก มีผู้หลงเชื่อเข้าไปสั่งจองสินค้า เฉพาะในกลุ่มของตนกลุ่มเดียวประมาณ 130 กว่าคน และยังมีกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อด้วยเหมือนกัน ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าได้สินค้าทั้ง 5 ล้านซองได้ถูกสั่งจองหมดแล้ว และได้ว่าจ้างให้บริษัท เมจิก สกิน เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ และจะได้รับสินค้าภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 เครือข่ายเครื่องสำอางเมจิก สกิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมและเปิดเผยว่าเป็นโรงงานเถื่อน ทำให้ผลิตภัณฑ์คาโอะ โดย ตรีชฎา ต้องย้ายฐานการผลิตไปยังโรงงานใหม่ แต่ต่อมาก็มีเว็บไซต์ดอกจิกออกมาแฉว่า โรงงานที่ย้ายฐานการผลิตใหม่นั้นไม่มีอยู่จริง ทำให้ต้องย้ายโรงงานอีกครั้ง ไปใช้ของบริษัท ฮานิว โคเรีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้เครือเมจิก สกินอีกเช่นเคย ซึ่งต่อมาบริษัทดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าจับกุมอีก ทำให้เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้น พวกตนจึงได้ติดต่อขอเงินคืนจากทั้งแม่ข่ายและเจ้าของผลิตภัณฑ์ แต่ก็ไม่ได้เงินคืนแต่อย่างใด และเกรงว่าเครือข่ายตรีชฎาจะยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินไปซุกซ่อน จึงได้มาร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบคดีเมจิก สกิน ในวันนี้
พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า จากการส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าผลิตภัณฑ์คาโอะ ไม่มีสารสกัดจากเยื่อไผ่ญี่ปุ่นและเห็ดญี่ปุ่นเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด แต่ได้หลอกลวงให้ประชาชนเป็นจำนวนมากหลงเชื่อและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ จึงเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานในคดีฟอกเงินอีกด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดอาจต้องถูกยึดทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้มาจากการกระทำผิด และหากมีผู้ใดช่วยซุกซ่อนทรัพย์สินของผู้กระทำผิดก็อาจมีโทษไปด้วย ทั้งนี้ ต้องเปิดเป็นคดีใหม่ เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดต่างกรรม ต่างวาระ จึงไม่นำไปรวมไว้ในคดีเมจิก สกิน ที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้มีความคืบหน้าในการดำเนินคดีไปมากแล้ว แต่เนื่องจากในปัจจุบัน กองปราบมีงานล้นมือแล้ว เกรงว่าจะทำคดีใหม่นี้ล่าช้า จึงจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับดำเนินการต่อไป
ในการนี้ รอง ผบ.ตร.ยังได้ฝากเตือนถึงกลโกงของทุรชนที่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ ที่เปลี่ยนไปทุกวัน โดยอาศัยผลประโยชน์ต่างๆ หรือใช้การโฆษณาเกินจริงเป็นเหยื่อล่อ จึงขอให้พี่น้องประชาชนมีวิจารณญาณในการดูโฆษณา หากพบว่ามีการอวดอ้างสรรพคุณอย่างน่าอัศจรรย์ ขอให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นโฆษณาเกินจริงที่ยังไม่ได้รับอนุญาตการโฆษณาจาก อย. และอย่าหลงเชื่อจ่ายเงินให้ใครง่ายๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่รับชำระด้วยเงินสด เพราะน่าจะเป็นธุรกิจที่ไม่มีการรายงานทางบัญชีเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี แสดงว่าเป็นบริษัทหรือโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน และการชำระด้วยเงินสดจะทำให้ไม่มีหลักฐานการโอนเงินจากคนกลาง (ธนาคาร) มาเป็นเครื่องยืนยันการชำระเงินของเราด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม