เตรียมเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง ปมพระธาตุสามหุนถล่ม ข้อหาประมาทร่วม
logo ข่าวอัพเดท

เตรียมเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง ปมพระธาตุสามหุนถล่ม ข้อหาประมาทร่วม

ข่าวอัพเดท : เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหตุพระธาตุสามหุนถล่มเบื้องต้นสามารถแจ้งข้อหากับผู้รับเหมา พระธาตุสามหุนถล่ม,อุทกภัย,ข่าวพระธาตุถล่ม

1,468 ครั้ง
|
06 มิ.ย. 2561
เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหตุพระธาตุสามหุนถล่มเบื้องต้นสามารถแจ้งข้อหากับผู้รับเหมาในข้อหาร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
 
ความคืบหน้าเหตุการณ์พระธาตุสามหุนภายในวัดป่ากุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างต่อเติมเกิดการทรุดตัวและถล่มลงมา ทำให้คนงานก่อสร้างเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าสาเหตุที่พังถล่มลงมานั้นน่าจะเป็นการทำผิดผี เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีควันพุ่งขึ้นมาบนหัวพระธาตุ ก่อนจะถล่มทับคนงาน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าอาจเป็นการสร้างผิดแบบและไม่มีวิศวกรรับรองความปลอดภัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
 
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า การก่อสร้างครั้งนี้เป็นการต่อเติมปฏิสังขรณ์ โดยการสร้างอาคารด้านข้างเป็นพนังปูนรูปทรงสามเหลี่ยมรอบพระธาตุและก่อสร้างหลังคาครอบยอดองค์พระธาตุทรงระฆังคว่ำ ซึ่งเริ่มก่อสร้างปฏิสังขรณ์มาตั้งแต่ปี2557 มีการจ้างผู้รับเหมาจาก จ.สุรินทร์ และคนงานจาก จ.นครราชสีมา แต่เป็นการก่อสร้างเป็นช่วงๆ คือหากมีเงินก็จะจ้างผู้รับเหมามาดำเนินการสร้างต่อ โดยลักษณะการก่อสร้างเป็นรูปสามเหลี่ยมทำครอบขึ้นให้สูงถึง 39 เมตร แต่มาถึงระดับความสูงที่ 29 เมตร มีเสาค้ำยัน 12 ต้น ก่ออิฐรอบจนเกิดการพังถล่มมา คาดว่าเสาที่ใช้ค้ำยันนั้นมีขนาดเล็กไม่สามารถรับน้ำหนักผนังปูน รวมทั้งตัวโครงสร้างอาคารได้
 
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ยังได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ และอำเภอต่างๆ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจวัดทุกแห่งทั่วจังหวัดว่าขณะนี้มีการก่อสร้างที่ใดบ้างเพื่อที่จะนำเจ้าหน้าที่วิศวกรของสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้าไปดูแลและตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
 
นายปิ่น เงางาม อายุ 54 ปี ผู้รับเหมา กล่าวว่า ตนรับงานก่อสร้างต่อเติมมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเริ่มทำครั้งแรก และครั้งที่ 2 ทำในปี 2558 และครั้งที่ 3 คือครั้งนี้เริ่มทำมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 ซึ่งการก่อสร้างคืบหน้ากว่า 80 % แล้ว และในวันเกิดเหตุมีคนงานจำนวน 12 คน และเด็กเล็กลูกคนงานวิ่งเล่นอยู่บริเวณก่อสร้างอีก 2 คน โดยในช่วงเช้าตนได้สั่งให้คนงานเก็บข้าวของทำความสะอาด เพื่อเตรียมส่งงานและเบิกเงินค่าแรง จากนั้นได้เดินไปหาคณะกรรมการวัดไม่นานกลับมาก็เห็นสภาพพระธาตุถล่มลงมาแล้ว ซึ่งตนและคนงานที่เหลือช่วยกันรีบช่วยนำร่างผู้บาดเจ็บออกมาแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ 
 
ทางด้าน ร.ต.อ.โสภณ บัวคำโคตร ร้อยเวร สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานแวดล้อม รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย หลายคน ทั้งนี้เบื้องต้นหากสอบปากคำและรวมรวมพยานหลักฐานเสร็จน่าจะสามารถแจ้งข้อหาร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับผู้รับเหมาเป็นการเบื้องต้นก่อน ส่วนทางคณะกรรมการวัด และเจ้าอาวาส หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นนั้นจะต้องสอบสวนอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องบ้างและสามารถแจ้งข้อหาได้หรือไม่
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง