ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2017/18 รอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เรอัล มาดริด แชมป์สองสมัยติดต่อกันจากสองฤดูกาลล่าสุด ลงสนามพบกับลิเวอร์พูล ซึ่งคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อ 13 ปีที่แล้ว
เริ่มเกมเป็นฝั่งลิเวอร์พูลที่ทำเกมได้ดีกว่า แต่จุดเปลี่ยนของเกมคือช่วงหลังเริ่มเกมไปประมาณครึ่งชม. เมื่อการเสียโม ซาลาห์ จากการเหนี่ยวแขนของรามอส ทำให้เจ้าตัวหลั่งน้ำตาฝืนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตัวอดัม ลัลลานาลงมาเล่นแทน เกมพลิกกลับไปเป็นมาดริดที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจน
แต่ในนาทีที่ 35 ดานี การ์บาฆาล นักเตะราชันชุดขาวก็ตอกส้นขาซ้ายผิดจังหวะเล่นต่อไม่ไหว หลั่งน้ำตาเดินออกจากสนามไปเช่นกัน มาดริดส่งนาโชลงสนามมาแทน
ส่วนนาทีที่ 43 โรนัลโดโขกหน้าประตูติดเซฟของคาริอุส ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล จากนั้นเบนเซมาโขกซ้ำเข้าประตูไป แต่กรรมการยกธงล้ำหน้า ทำให้ลิเวอร์พูลไม่เสียประตู และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0
เริ่มครึ่งหลังลิเวอร์พูลเสียประตูอย่างไม่ควรจะเสีย เมื่อคาริอุสขว้างบอลออกมาเริ่มทำเกม แต่โดนขาขวาของคาริม เบนเซมา สวนกลับเข้าไปเป็นประตูทันที มาดริดขึ้นนำ 1-0 แต่ไม่กี่นาทีถัดมา ซาดิโอ มาเน่ ก็ทำประตูกลับคืนให้ลิเวอร์พูลจากลูกเตะมุมตามตีเสมอมาเป็น 1-1
จากนั้นมาดริดตัดสินใจส่งกาเร็ธ เบล ลงสนามไปแทนอิสโก และก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง หลังส่งลงไปสามนาทีก็ทำประตูให้มาดริดได้ในนาทีที่ 64 มาดริดขึ้นนำเป็น 2-1 และจากนั้นนาที 83 กาเร็ธ เบล ยิงไกลจากนอกเขตโทษระยะ 30 หลา คาริอุสรับปลิ้นเข้าประตูไป ปิดกล่องให้มาดริดเอาชนะไป 3-1
เรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 13 ของสโมสร
+ อ่านเพิ่มเติม