ในงาน Game Changer เกมใหม่ เปลี่ยนอนาคต นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าหลังจากนี้ไป จะพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่องต่อไปให้ได้ และจะต้องทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจกระจายไปสู่ระดับฐานราก ทั้งคนระดับกลางและระดับล่าง หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ขยายตัวได้ถึง 4.8% สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส ซึ่งสะท้อนว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมาถูกทาง
โดยจากข้อมูลการเติบโตของเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจมีมูลค่า 13.2 ล้านล้านบาท ขยับขึ้นเป็น 15.4 ล้านล้านบาท ในปี 2560 เพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Market Cap ในปี 2557 อยู่ที่ 13.2 ล้านล้านบาท ได้สูงขึ้นมาอยู่ที่ 17.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านล้านบาท ซึ่งการเติบโตเหล่านี้จะต้องทำให้คนทุกระดับได้รับประโยชน์ไปด้วย ไม่ใช้ให้ผู้มีรายได้สูงเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
ดังนั้นในช่วงต่อไป รัฐบาลที่ยังมีเวลาในการทำงานอยู่ จะพยายามผลักดันให้เกิดการพัฒนาภาคการผลิตให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคการเกษตร และผลักดันให้ภาคธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพแข็งแกร่งมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ แม้จะมีเป็นห่วง แต่เชื่อว่ากระทรวงพลังงานจะมีมาตรการในการรับมืออย่างเต็มที่ โดยจะมีการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลระดับราคาให้มีเสถียรภาพ เพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชน ขณะที่กระทรวงการคลังก็มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะดูแลค่าใช้จ่ายผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนกังวลเกินกว่าเหตุ เพราะที่ผ่านมาไทยก็เคยผ่านจุดที่ราคาน้ำมันเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลมาแล้ว
ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก แม้ว่าจะเป็เรื่องที่มีความเห็นต่างกันก็ตาม แต่ไม่อยากให้คนไทยมีการทอนกำลังประเทศ เพราะประเทศยังต้องเดินไปข้างหน้า หากทุกอย่างยังอยู่ในกรอบ ไม่รุนแรง ก็ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
+ อ่านเพิ่มเติม