ชาวบ้านโวย ถนน 2 เส้นในจ.ขอนแก่นยิ่งซ่อมยิ่งเละ เทศบาลยันไม่นิ่งนอนใจ เร่งรัดผู้รับเหมาแล้ว
logo ข่าวอัพเดท

ชาวบ้านโวย ถนน 2 เส้นในจ.ขอนแก่นยิ่งซ่อมยิ่งเละ เทศบาลยันไม่นิ่งนอนใจ เร่งรัดผู้รับเหมาแล้ว

ข่าวอัพเดท : เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น สำรวจความเดือดร้อนของประชาชน ถนนเจ้าเงาะ,ถนนแจ้งสนิท

1,607 ครั้ง
|
07 พ.ค. 2561
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมถนนเจ้าเงาะ และถนนแจ้งสนิท เนื่องจากมีการแชร์ภาพถนนที่เป็นหลุม เป็นบ่อ ในเพจ "ข่าวคนบ้านไผ่" พร้อมข้อความแสดงความไม่พอใจ ซึ่งข้อความส่วนหนึ่งระบุว่าก่อนจะมีงบมาซ่อมแซมก็มีบ้านเมืองที่สวยสะอาด แต่พอมีงบซ่อมแซมมากลับมีสภาพที่เละเท
 
ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมถนนเจ้าเงาะ โดยนายหมุน วงษ์ชารี อายุ 60 ปี เจ้าของร้านช่างหมุนโทรทัศน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เปิดร้านซ่อมมาตั้งแต่พ.ศ. 2527 มีลูกค้ามาใช้บริการเรื่อยๆ ทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่เมื่อมีการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียชุมชน ถนนก็เละเทะ การไปมาลำบาก ฝนตกน้ำท่วมขัง แดดออกฝุ่นละอองคลุ้งไปทั่ว ต้องใช้ผ้าใบคลุมสิ่งของที่อยู่ในร้าน ลูกค้าก็หาย ที่อยู่ได้ เพราะซ่อมของเก่าที่ยังค้างอยู่ จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบออกมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนด้วย
 
นางสาวเนตรนภัทร ทิทา อายุ 36 ปี เจ้าของร้านแจนซักรีด ริมถนนเจ้าเงาะอีกราย กล่าวว่า เห็นการขุดถนน วางท่องมาตั้งแต่ต้นปี หยุดบ้าง ทำบ้าง จนถึงขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ลูกค้าที่เคยนำผ้ามาซัก รีด ก็หายไปหมด เพราะร้านอยู่ริมถนน ฝุ่นละออง โคลน กระเด็นไปทั่ว เมื่อลูกค้าไม่มีรายได้ก็ตก จนต้องยืมเงินกู้นอกระบบมาจ่ายค่าเช่า และผ่อนจ่ายดอกเบี้ยรายวัน และถ้าสิ้นเดือนพฤษภาคมเข้าหน้าฝนแล้ว ถนนไปมาไม่สะดวก ลูกค้าไม่มี ทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย ก็คงต้องปิดร้าน 
 
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ถนนแจ้งสนิทซึ่งเป็นถนนสายหลัก มีผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาจำนวนมาก เนื่องจากเป็นถนนที่สัญจรระหว่างอ.บ้านไผ่ ไปจังหวัดมหาสารคาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับนางอรุณ นิรัตยะกุล อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ตั้งอยู่ริมถนนแจ้งสนิทมาหลายสิบปีกล่าวว่า เห็นการก่อสร้างบริเวณหน้าร้านมากว่า 1 ปี และทราบว่าการก่อสร้างหมดสัญญาไปแล้วแต่มีการต่อสัญญาใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยให้การก่อสร้างดีขึ้น เพราะถนนยังเป็นหลุมเป็นบ่อ ฝนตกมีน้ำขัง และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ยอมรับว่าการก่อสร้างที่ไม่แล้วเสร็จกระทบต่อการค้าขายเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าเข้าออกร้านลำบาก อยากให้ผู้รับผิดชอบออกมาจัดการปัญหาการก่อสร้างให้เรียบร้อย เพราะงบประมาณมาจากภาษีของประชาชน
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในกรณีการก่อสร้างในพื้นที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่กับว่าที่ร้อยเอกวัทธิกร ทรงยศรัตนา ปลัดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ณ ขณะนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งทางเทศบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งรัดให้ทางผู้รับเหมาดำเนินการสร้างโครงการให้แล้วเสร็จ ในส่วนของถนนที่ชำรุดเนื่องจากการก่อสร้างนั้น ทางเทศบาลได้แจ้งให้ผู้รับเหมาเข้ามาซ่อมแซมเหมือนเดิมแล้ว แต่เนื่องจากในช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้การซ่อมแซมถนนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งในวันที่ 9 พ.ค.นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางจะลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามรับทราบปัญหา และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป 
 
สำหรับปัญหาที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเทศบาลเมืองบ้านไผ่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจัดการน้ำเสียภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 -2558 ก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียชุมชน งบประมาณจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สัญญาจ้างเลขที่ 46/2559 ลงวันที่ 13 กันยายน 2559 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 26 มกราคม 2561 งบประมาณการก่อสร้างโครงการดังกล่าว 99,050,000 บาท ซึ่งการก่อสร้างดังกล่าวนั้น มีการขุดเจาะถนนในเขตเทศบางเมืองบ้านไผ่ จำนวน 12 สาย รวมถึงถนนทางเข้าบ่อบำบัดและการก่อสร้างอาคารชลศาสตร์ภายในบ่อบำบัดด้วย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้สัญญาจ้างดังกล่าวจะสิ้นสุดไปตั้งแต่ต้นปี แต่งานยังไม่แล้วเสร็จ เทศบาลเมืองบ้านไผ่จึงให้โอกาสทางผู้รับจ้างขยายเวลาต่ออีก และเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่เรียบร้อย จนชาวบ้านต้องถ่ายรูปแชร์ตามเพจต่างๆไปทั่ว รวมทั้งเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบความโปร่งใส่ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าวด้วย