'วิษณุ' เผย "ไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 รื้อถอนบ้านพักตุลาการ" เชื่อชุมนุมไม่บานปลาย
logo ข่าวอัพเดท

'วิษณุ' เผย "ไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 รื้อถอนบ้านพักตุลาการ" เชื่อชุมนุมไม่บานปลาย

ข่าวอัพเดท : รองนายกรัฐฒนตรีฝ่ายกฏหมาย ระบุ ไม่จำเป็นต้องใช้ มาตรา 44 รื้อทรัพย์สินทางราชการ ปมบ้านพักตุลาการศาลอุทรณ์เชียงใหม่ เชื่อการชุมนุมไม่ ชุมนุม,บ้านพักตุลาการ,วิษณุ,ทรัพย์สิน,เชียงใหม่

2,116 ครั้ง
|
02 พ.ค. 2561
รองนายกรัฐฒนตรีฝ่ายกฏหมาย ระบุ ไม่จำเป็นต้องใช้ มาตรา 44 รื้อทรัพย์สินทางราชการ ปมบ้านพักตุลาการศาลอุทรณ์เชียงใหม่ เชื่อการชุมนุมไม่บานปลาย เพราะยังไม่พบการเมืองแทรก
 
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาบ้านพักตุลาการ ว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงพื้นที่พูดคุย เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการแก้ปัญหา เนื่องจากนายสุวพันธ์ เคยทำงานลักษณะนี้ สมัยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่กังวลว่าปัญหาดังกล่าวจะบานปลาย เพราะการชุมนุมเรียกร้องยังมีเป้าหมายที่สุจริต เชื่อว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรก ซึ่งถือเป็นผลดี เพราะการแก้ปัญหาจะง่ายขึ้น 
 
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นตุลาการ ประชาชน และฝ่ายที่ดูแลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่สำคัญต้องเห็นใจข้าราชการศาล เพราะโครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการศาลอุทรณ์ภาค 5 เป็นข้อตกลงเดิมที่ทำขึ้น ตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อนหน้านี้ และดำเนินการมากว่า 10 ปี เพื่อให้ข้าราชการศาลมีที่อยู่อาศัย เป็นกลุ่มก้อน ขณะเดียวกันเห็นว่าปัญหานี้ไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรา44 เพื่อดำเนินการรื้อถอนทรัพย์สินทางราชการ เพราะมาตรา 44 จะใช้ในทางสร้างสรรค์เท่านั้น 
 
ส่วนข้อเสนอให้ทำประชามติ ว่าจะรื้อถอนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า การทำประชามติเป็นเรื่องใหญ่ ใช้งบประมาณจำนวนมาก ต้องมีเวทีแสดงความเห็น มีการตั้งประเด็น ร่วมไปถึงเข้าคู่หากาบัตร คล้ายการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 60 จึงควรทำประชาพิจารณ์ หรือสอบถามความคิดเห็นได้ เพราะไม่สิ้นเปลื้อง ซึ่งล่าสุด เพจไทยคู่ฟ้า ของทำเนียบรัฐบาล ก็ได้เปิดให้แสดงความเห็น เพื่อนำไปประกอบการพิจารณ์ตัดสินใจดำเนินการ และเพจอื่นๆ ก็สามารถทำร่วมกันได้ ซึ่งการตัดสินใจเกี่ยวกับทางออกของปัญหานี้จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ถูกต้องเป็นหลัก
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง