หนังสือพิมพ์ Munhwa Ilbo ของเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของ "เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่ไม่ระบุชื่อ" ว่า ระหว่างการพบปะกันครั้งประวัติศาสตร์ของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้านั้น ฝ่ายนิติบัญญัติของทั้งสองเกาหลีก็เตรียมเจรจากันเพื่อออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อการประกาศสิ้นสุดสงครามเกาหลีที่ดำเนินมายาวนานถึง 68 ปี อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการใดๆ จากทางการของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับการหารือในประเด็นยุติสงครามนี้
สงครามเกาหลีอุบัติขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1950 หรือกว่า 68 ปีที่แล้ว และปัจจุบันแม้จะไม่มีการรบพุ่งกันอย่างเป็นทางการระหว่างสองเกาหลีมานานแล้ว แต่ในทางเทคนิคนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลียังถือว่าอยู่ในภาวะสงคราม เนื่องจากการยุติการรบในปี 1953 ก็เป็นเพียงข้อตกลงหยุดยิงเท่านั้น ไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพยุติสงครามแต่อย่างใด
ซึ่งการพบกันระหว่างผู้นำสองชาติเกาหลีนี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2561 ที่ศาลารวมชาติ ภายในหมู่บ้านปันมุนจอม ที่ตั้งอยู่บนเขตปลอดทหารที่กั้นแบ่งพรมแดนระหว่างสองเกาหลี ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นอาคารของเกาหลีใต้ จึงถือได้ว่านายคิม จอง อึน จะเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่เหยียบผืนดินที่เป็นดินแดนของเกาหลีใต้นับแต่ข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นในปี 1953 แม้ทางเกาหลีเหนือจะอ้างว่าอดีตผู้นำสองคนก่อนหน้านี้ ได้แก่ คิม อิล ซุง และคิม จอง อิล ซึ่งเป็นปู่และพ่อของคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ก็เคยเดินทางมากรุงโซลหลายครั้งในช่วงที่โซลเคยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ การหารือดังกล่าวยังมีการพูดถึงการถอนกำลังออกจากเขตปลอดทหารอีกด้วย
และหลังจากก่อนหน้านี้นายคิม จอง อึน ได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ตลอดจนกำลังจะพบกับผู้นำเกาหลีใต้แล้ว ก้าวต่อไปในปฏิบัติการทางการทูตของนายคิมต่อจากนี้ คือการพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังแสดงท่าทีกังขาถึงเจตนาในการพบกันที่กำลังจะเกิดขึ้นดังกล่าว และนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (ซีไอเอ) ออกมาระบุว่าเกาหลีเหนือไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนใดๆ จากการพูดคุย จนกว่าจะมีความก้าวหน้าในการยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวร
+ อ่านเพิ่มเติม