ศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวแก่ "บ.สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้" โดยสั่ง ขสมก.ห้ามรับรถเมล์เอ็นจีวีจากบริษัท ช.ทวี และห้ามนำออกมาวิ่งให้บริการ พร้อมให้จ่ายค่าเสียหายบอกเลิกสัญญา "เบสท์ริน" โดยมิชอบกว่า 1,100 ล้านบาท
ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่บริษัท สยามสแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ฟ้อง ขสมก.ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง กรณีที่ขสมก.มีมติโหวตจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจากบริษัท ช.ทวี เป็นเท็จ ซึ่งศาลพิพากษาคุ้มครองชั่วคราวว่าการลงมติโหวตอนุมัติจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จากช.ทวี เป็นไปโดยมิชอบ ไม่มีความชอบธรรม และสั่งทุเลาบังคับใช้สัญญา โดยไม่ให้ ขสมก.ตรวจรับรถและรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีจาก ช.ทวี
ทั้งนี้ ทางขสมก.เพิ่งจะนำรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 100 คันมาวิ่งให้บริการประชาชนเมื่อปลายมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งของศาลปกครองอาจส่งผลให้รถเมล์ทั้งหมดต้องหยุดให้บริการและเดินหน้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ โดยระหว่างนี้ทางขสมก.จะกลับไปพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และจะแก้ไขปัญหาในช่วงระหว่างนี้อย่างไร
ส่วนกรณีที่บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ขสมก. กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์เอ็นจีวี โดยเรียกค่าเสียหายมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาทนั้น ศาลปกครองกลางพิพากษาว่าการบอกเลิกสัญญาของ ขสมก.เป็นไปโดยมิชอบ และสั่งให้ขสมก.ชำระค่าเสียหายมูลค่า 1,100 กว่าล้านบาทให้บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป
ผู้บริหารของ บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป ระบุว่าบริษัทชนะการประมูลอย่างถูกต้อง และขสมก.ได้ส่งคนมาตรวจสอบและรับมอบรถเพื่อนำรถไปทดสอบวิ่งรวมทั้งจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ขสมก.ไปบางส่วนแล้ว แต่กลับมายกเลิกสัญญาภายหลังซึ่งถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรถเมล์ที่นำเข้ามาจำนวนมากก็ยังจอดอยู่ที่ลานจอดรถย่านบางนา โดยไม่มีการใช้งานจึงทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก จากนี้ จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้หาทางออกที่เป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย โดยอาจมีคำสั่งให้ขสมก.ซื้อหรือเช่ารถเมล์ที่จอดทิ้งที่ลานจอดบางนาเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม