พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นประธานการประชุมแผนดำเนินการ พร้อมแบ่งชุดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาการกระทำความผิด กรณีฮั้วประมูลของ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.ใน 10 จังหวัดที่พบทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถดูดโคลนฉีดล้างท่อระบายน้ำในล็อตที่ 2
พลตำรวจตรีกมลระบุว่าวันนี้มีการแบ่งชุดเจ้าหน้าที่ 8 หน่วยงาน ได้แก่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผนดิน, เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร, เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง, ตำรวจกองบังคับการปราบปราม, ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อแบ่งหน้าที่รับผิดชอบเขตการปฎิบัติงาน แล้วทำการสืบสวนหาพยานหลักฐานตามเป้าหมายแต่ละจุดเพื่อรวบรวมข้อมูลส่ง ป.ป.ช.ให้มากที่สุด โดยการตรวจสอบครั้งนี้จะมีการติดตามเส้นทางการเงินด้วย
ขณะนี้มีผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว 5 จังหวัด ประกอบไปด้วย เพชรบูรณ์ สมุทรปราการ ระยอง นนทบุรี และ พิษณุโลก ส่วนจังหวัดอื่นที่ยังไม่เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ จะส่งรายละเอียดศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอ.ตช. ซึ่งมีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ภายในกรอบระยะเวลาหลังสงกรานต์
ส่วนผู้กระทำความผิดได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้บริหารหน่วยงานท่องถิ่น และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการประมูล กลุ่มที่ 2 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการประมูลที่มีส่วนกระทำความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ. ฮั้วประมูล โดยในวันที่ 11 เมษายนนี้ จะกระจายเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ลงพื้นที่ 10 จังหวัด ตรวจสอบการกระทำความผิดในจังหวัดที่พบมีการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถดูดโคลนฉีดล้างท่อระบายน้ำในล็อตที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะพบพยานหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นในสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนสมมติฐานเรื่องการจ่ายสินบนและรับเงินใต้โต๊ะขณะนี้ยังไม่พบหลักฐาน ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 ส่วนบริษัทเอกชนก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยขณะนี้ทาง ปปป.กำลังขอข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง เพื่อขยายผลตรวจสอบไปจังหวัดอื่นๆว่ามีการทุจริตฮั้วประมูลลักษณะนี้หรือรูปแบบอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรีบทำสรุปสำนวนเพื่อให้เสร็จทันกรอบ 30 วัน เพื่อส่ง ป.ป.ช. ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม