พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มาแสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน” ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรีได้วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ก่อนกล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ระยะเปลี่ยนผ่านนั้นเป็นระยะที่สำคัญ ส่วนจะดีหรือไม่ดีไม่ทราบได้ แต่ต้องทำให้ดีที่สุดในทุกกิจกรรมเพื่อลดความขัดแย้ง และสิ่งอื่นๆต้องคลี่คลายให้ดีกว่าเดิม ซึ่งวิสัยทัศน์ที่สำคัญจะต้องมองไปข้างหน้าและอย่ามองอดีตอย่างเดียว ส่วนอดีตคือการเรียนรู้และความภาคภูมิใจ หากอดีตไม่ดีต้องอย่าทำอีก เพราะวันนี้คือประวัติศาสตร์ในอนาคต และต้องเตรียมการณ์สอดคล้องกับสถานการณ์วันหน้า
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต้องวางกรอบหลักการให้ประเทศทุกๆ 5 ปี ยอมรับว่ามีคนส่วนหนึ่งไม่ต้องการยุทธศาสตร์ชาติ แต่หากไม่มียุทธศาสตร์ชาติประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้ ยืนยันยุทธศาสตร์ชาติสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากมีเหตุผลเพียงพอ และย้ำว่าไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมกับหยอกล้อกับนิสิตว่า จะออกข้อสอบในวิชาเบล็ดเตล็ดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้กับนิสิตได้ทำข้อสอบด้วย ดังนั้น ต้องมีเรือธงสำคัญ ให้กับทั้ง 2 ฝ่ายนอกเหนือจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านตามหลักประชาธิปไตย เพื่อผ่านคลื่นลมอุปสรรคอีกเยอะแยะ และต้องเป็นเรือธงที่พาเรืออื่นๆไปพร้อมกัน ส่วนนโยบายพรรคก็ว่ากันไป และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนเรื่องการเลือกตั้งนั้นเชื่อว่าต่อไปอาจจะดีขึ้นได้ แต่ขออย่ามาโทษตนในเรื่องนี้
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาต้องผลิตคนตรงความต้องการของประเทศ ซึ่งตนไม่ได้ร่ำรวยตั้งแต่เด็ก แต่มีความตั้งใจที่จะรับราชการทหารเพื่อให้ได้ยศนายพลและเกษียณลงตามขั้นตอนเท่านั้น และไม่ได้มีความตั้งใจเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้ตนต้องมายืนตรงนี้ ดังนั้น ขอให้นิสิตตั้งมั่นเพื่อเป็นคนดีและคิดว่าจะทำงานในด้านใด ซึ่งหลายคนมีความตั้งใจเป็นทหาร หมอ และครู จึงขอให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามตั้งแต่เด็กจนโต พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้ยังข้าราชการทุจริตมีอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกจิตใจของคน ยืนยันว่าตนเร่งแก้ทุจริตให้ได้โดยเร็ว ซึ่งการเขียนกฎหมายออกมาเกี่ยวกับจริยธรรมและคุณธรรม แต่กฎหมายจราจรก็ยังบังคับไม่ได้เลยเพราะอยู่ที่ใจคน โดยกฎหมายนั้นไม่ได้บังคับใคร แต่กฎหมายเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ซึ่งรัฐบาลไม่กฎหมายเพื่อเพิ่มภาระแต่ต้องอำนวยความสะดวก ขออย่านำรัฐธรรมนูญนำมาทะเลาะกัน ทั้งนี้ ตลอดช่วงปาฐกถาพิเศษนายกรัฐมนตรีอารมณ์ดีและกล่าวหยอกล้อนิสิตนิสิตตลอดเวลา และยังทำสัญลักษณ์มือบอกรักผู้เข้าร่วมฟังปาฐกถาทุกคนหลังเสร็จปาฐกถาพิเศษด้วย
ทั้งนี้ มีเหล่านิสิตมาเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยก่อนเริ่มงาน บรรดานิสิตของจุฬาฯ ซึ่งเป็นนิสิตที่พักหอพักของมหาวิทยาลัยได้ทยอยกันมาลงทะเบียน เพื่อร่วมรับฟังปาฐกถาพิเศษของนายกรัฐมนตรี โดยจะต้องใช้บัตรนิสิตของตัวเองไปแลกคิวอาร์โค้ดกับเจ้าหน้าที่เพื่อสแกนในช่วงขาเข้า และเมื่อเข้ามายังบริเวณหน้าห้องประชุม ก็จะต้องสแกนนิ้วมือเพื่อแสดงตนอีกครั้ง พร้อมกับโชว์คิวอาร์โค้ดรับคะแนนกิจกรรม ซึ่งปรากฎภาพของนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์และนักกิจกรรมด้านการเมืองเข้าร่วมรับฟังการบรรยายครั้งนี้ด้วย อนึ่ง มีมาตรการด้านความปลอดภัยคือผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องผ่านเครื่องสแกนวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัยตรวจค้นอย่างละเอียด ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดของนายกรัฐมนตรี
+ อ่านเพิ่มเติม