แค่ไร้ข้อสรุป! ยันดีลรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่นยังไม่ล่ม แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องให้ครม.พิจารณาต่อ

9,315 ครั้ง

09 ก.พ. 2561

แชร์ข่าวไปที่

เกิดกระแสข่าว "ญี่ปุ่น" เจรจารถไฟความเร็วสูงกับไทยล่มจากการแปลข่าวสื่อนอก ทีมข่าวถอดคำแปลพบหาข้อสรุปไม่ได้จริงแต่ยังไม่ถึงขั้นล้มโต๊ะ ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมยืนยันดีลยังไม่ล่ม แค่ยังเจรจาไม่ได้ หากถึงเวลายังไม่ได้ข้อสรุปก็ต้องทำความเห็นเสนอ ครม.พิจารณาไปตามสถานการณ์

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการแชร์ลิงก์ข่าวของ "The Strait Times" สำนักข่าวชื่อดังของสิงคโปร์ ที่อ้างอิงรายงานจาก Bangkok Post ระบุว่าญี่ปุ่นปฏิเสธไม่ลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จนนำไปสู่การแชร์ในสังคมออนไลน์ว่าการเจรจาดังกล่าวล่ม

ทีมข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเนื้อข่าวดังกล่าว (อ่านข่าวต้นทาง คลิก) ถอดความได้ดังนี้

"รายงานของ Bangkok Post ระบุว่า ไทยต้องการให้ญี่ปุ่นลงทุนในรถไฟความเร็วสูงรูปแบบเดียวกับรถไฟชิงคันเซน จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ แต่ญี่ปุ่นยืนยันว่าจะให้เพียงการกู้เงินสำหรับโครงการดังกล่าวเท่านั้น

ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคมของไทย ซึ่งนำโดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ร่วมประชุมกับฝ่ายญี่ปุ่น นำโดยนายโนริโยชิ ยามากามิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปของสำนักงานรถไฟ กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น

ภายหลังการประชุม นายอาคมระบุว่า ญี่ปุ่นยังคงยืนยันให้ไทยลงทุนในโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ความสำคัญลำดับแรกที่รัฐบาลไทยต้องการคือการหาทางลดภาระหนี้ของรัฐบาลจากการลงทุนในโครงการนี้ โดยนายอาคมได้ขอให้ญี่ปุ่นหาทางลดเงินลงทุนเพื่อจะลดหนี้สำหรับไทย โดยทางหนึ่งอาจจะเป็นการลงทุนร่วมระหว่างไทยและญี่ปุ่น

แต่ญี่ปุ่นยืนยันว่าจะให้ข้อเสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับโครงการนี้แทน นายอาคมระบุเพิ่มเติมว่าการเจรจาจะมีขึ้นอีกครั้ง

จากการศึกษาของฝั่งญี่ปุ่น รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่จะมีต้นทุน 4.2 แสนล้านบาท

ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแนะนำให้ลดความเร็วสูงสุดของรถไฟให้เหลือ 180-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดต้นทุน แต่จากการศึกษาพบว่ามันอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุนในรถไฟที่ช้าลง

นายอาคมยังยืนยันว่ารถไฟความเร็วสูงดังกล่าวจะใช้สไตล์รถไฟชินคันเซนของญี่ปุ่น ที่มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เขาระบุถึงการหารือล่าสุดที่มีการพิจารณาตัดบางสถานีรถไฟออกเพื่อลดต้นทุน แต่ทางญี่ปุ่นปฏิเสธ โดยระบุว่าอาจไม่คุ้มค่าที่จะสูญเสียผู้โดยสารกลุ่มที่มีศักยภาพซึ่งอาศัยอยู่รอบๆ สถานีที่จะถูกยกเลิกไป

'ในขณะนี้การหาข้อสรุปในรายละเอียดอาจทำได้ยาก เพราะเรายังต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลัง' นายอาคมระบุ"

ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม แต่ได้รับคำตอบว่านายอาคมไปต่างประเทศ ทีมข่าวจึงได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับแหล่งข่าวข้าราชการในกระทรวงคมนาคมรายหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อแทน โดยระบุว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ยังไม่ล่ม การเจรจากับญี่ปุ่นก็ยังไม่ล่ม แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ

โดยหลังการเจรจาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฝ่ายญี่ปุ่นจะต้องนำข้อเสนอของไทยไปพิจารณา และให้ความเห็นกลับมา จากนั้นสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะทำความเห็นเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้แนวทางดำเนินการต่อไป คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนมีนาคม

ทั้งนี้ ประเด็นที่ The Strait Times ระบุว่าเป็นข้อพิจารณาสำคัญของโครงการ ประกอบด้วย

1. เรื่องแหล่งเงินสำหรับการลงทุน แหล่งข่าวชี้แจงว่าได้ส่งข้อเสนอของไทยให้ญี่ปุ่นไปพิจารณา ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยหวังว่าจะได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดกลับมา

2. การลดความเร็วรถไฟตามแนวคิดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สรุปชัดเจนว่าจะไม่มีการลดความเร็วลง เพราะผลการศึกษาชี้ว่าไม่ได้ทำให้ต้นทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และ

3. การพิจารณาลดสถานี เรื่องนี้แหล่งข่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ไทยเสนอแล้วญี่ปุ่นไม่เห็นด้วย แต่เป็นฝ่ายญี่ปุ่นที่เสนอลดสถานีแต่ไทยไม่เห็นด้วย เพราะไม่คิดว่าจะลดต้นทุนได้มากเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ไม่ได้มีแผนเพียงจะลดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังมีแผนเพิ่มรายได้จากการบริหารพื้นที่เพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น

แหล่งข่าวยืนยันว่า หากจะเสนอเรื่องเข้า ครม. แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ตกลงกันได้ระหว่างสองประเทศ ก็จำเป็นต้องให้ สนข. ทำความเห็นเสนอให้ครม.พิจารณาดำเนินการตามสถานการณ์ต่อไป

แชร์ข่าวไปที่

รถไฟความเร็วสูง

กรุงเทพ

เชียงใหม่

กระทรวงคมนาคม