ศาลสั่งจำคุกนายวัฒนา มือวางระเบิด 3 จุด กองสลากฯ-โรงละครแห่งชาติ-เมเจอร์รัชโยธิน จำคุกรวม 78 ปี 30 เดือน โดยให้รับโทษต่อจากคดีระเบิด รพ.พระมงกุฎ และพบระเบิดในบ้านพัก
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกวันนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวัฒนา ภุมเรศ เป็นจำเลยในคาวมผิดพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาวัตถุระเบิดเข้าไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร โดยระหว่างวันที่ 4-5 เม.ย. 60 จำเลยได้ประกอบวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่องเป็นระบบไฟฟ้าตั้งเวลาเป็นตัวจุดระเบิด ห่อด้วยกระดาษขาวม้วนกลมคล้ายห่อโรตีใส่ในถุงก๊อบแก๊บสีขาวขุ่นมัดปากถุงแล้วพาติดตัวออกจากบ้านพักโดยขึ้นรถโดยสารประจำทางมาตาม ถ.ราชดำเนินกลาง และนำไปวางบริเวณโคนต้นไม้ใกล้ป้ายรถเมล์ ฝั่งตรงข้ามร้านข้าวต้มสกายไฮ แต่ไม่บรรลุผล เนื่องจากพนักงานกวาดขยะได้กวาดเอาวัตถุระเบิดไปทิ้งถังขยะพลาสติกสีเขียวบริเวณกองสลากเก่า ทำให้เกิดระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย อีกครั้งระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค.60 จำเลยได้นำระเบิดแสวงเครื่อง ที่ประกอบขึ้นเองขึ้นรถยนต์โดยสารจากบ้านพักย่านบางเขน โดยเตรียมนำระเบิดวางไว้ใต้ต้นไม้บนบาทวิถี หน้าโรงละครแห่งชาติ แล้วเปิดสวิตซ์ให้วงจรทำงานจนเกิดระเบิดขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และลอบวางระเบิดหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน เมื่อปี 2550 โดยนายวัฒนาในฐานะจำเลยให้การรับสารภาพทั้ง 3 สำนวน ซึ่งตลอดการพิจารณาคดีตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2560 จำเลยไม่ได้ยื่นประกันตัว จึงถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาความผิดกรณีวางระเบิดหน้ากองสลากฐาน ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นบทหนักสุด จำคุกตลอดชีวิต, ฐานประกอบวัตถุระเบิดและทำให้เกิดระเบิด จำคุก 3 ปี, ฐานครอบครองยุทธภัณฑ์ จำคุก 1 ปี และพกพาวัตถุระเบิดไปในที่สาธารณะฯ ปรับ 1,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวมทั้งสิ้น 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท พร้อมให้ชดใช้หญิงผู้เสียหาย 1 ราย ที่ยื่นคำร้องขอในส่วนแพ่ง จำนวน 130,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเกิดเหตุ
ส่วนเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ ศาลมีคำพิพากษาเช่นเดียวกันกับคดีระเบิดหน้ากองสลากเดิม โดยให้จำคุกรวมทั้งสิ้น 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท แต่คดีนี้ให้ชดใช้ผู้เสียหาย 1 ราย ที่ยื่นคำร้องขอในส่วนแพ่ง จำนวน 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเกิดเหตุ
ส่วนเหตุลอบวางระเบิดในตู้โทรศัพท์ หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน เมื่อปี 2550 พยานหลักฐานรับฟังได้เพียงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตาม มาตรา 289 (4) และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ พ.ศ.2530 ศาลจึงพิพากษาให้จำคุกรวม 26 ปี 6 เดือน รวมทั้ง 3 เหตุการณ์จำเลยมีโทษจำคุก 78 ปี 30 เดือน โดยศาลให้นับโทษนายวัฒนาต่อจากคดีที่ศาลอาญาได้เคยพิพากษาไปแล้วอีก 2 สำนวนด้วย คือ คดีครอบครองวัตถุระเบิดที่บ้านพักของจำเลย ย่านบางเขน จำคุก 4 ปี ปรับ 975 บาท และคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าฯ เดือน พ.ค.2560 จำคุก 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการอ่านคำพิพากษา นายวัฒนาแถลงต่อศาลด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมว่า ที่ผ่านมาตนให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานอย่างเต็มที่ 100% หวังจะให้ศาลพิจารณาบรรเทาโทษตามความเหมาะสม ขณะที่ผู้พิพากษาได้แจ้งกับนายวัฒนาว่า ศาลได้พิจารณาตามพยานหลักฐานและที่จำเลยรับสารภาพ รวมทั้งบทลงโทษตามกฎหมายแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม